โอบาเมย็องไร้สกอร์ 5 เกมติดครั้งแรกในรอบ 6 ปี

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ไร้ชื่อบนสกอร์บอร์ด 5 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังจากที่ อาร์เซน่อล เปิดบ้านพ่ายต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
  
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้ากัปตันทีม อาร์เซน่อล ต้องเจอสถิติเลวร้ายที่ไม่น่าจดจำ เมื่อเจ้าตัวไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตูติดต่อกัน 5 นัดเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

โอบาเมย็อง คือผู้เล่นคนสำคัญของ ‘เดอะ กันเนอร์ส’ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเป็นคีย์แมนที่พา อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ โดยตลอดฤดูกาล 2019/20 กองหน้าทีมชาติกาบอง ซัดไป 29 ประตู จากทุกรายการ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในซีซั่นนี้กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะหลังจากที่ โอบาเมย็อง ทำประตูได้ในเกมเปิดฤดูกาลที่เอาชนะ ฟูแล่ม 3-0 และจรดปากกาต่อสัญญากับ ‘ไอ้ปืนใหญ่" ออกไป นับตั้งแต่นั้นเจ้าตัวกลับทำประตูไม่ได้อีกเลย ซึ่งนับเป็นจำนวน 5 นัดติดต่อกันเข้าให้แล้ว โดยสถิติไร้สกอร์ 5 เกมติดครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 สมัยที่เขายังค้าแข้งกับ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์

 

ลิเวอร์พูลเฮ “ติอาโก้” คืนทัพ! “ซาลาห์-มาเน่” นำตะบันเชฟยูส่งบรูว์สเตอร์ลุ้นยิงทีมเก่า

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะได้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่หายเจ็บกลับมาเคลื่อนทัพแดนกลาง ขณะที่แผงแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ พร้อมประสานคมพักตาข่ายเกมรับ "ดาบคู่" เชฟฯ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 24 ต.ค. ศกนี้  ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 (เวลา : 02.00 น.)
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563
ลิเวอร์พูล   –   เชฟฯ ยูไนเต็ด
ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 (เวลา : 02.00 น.)

สนาม : แอนฟิลด์

ลิเวอร์พูล :

    ลิเวอร์พูลบุกไปเสมอกับเอฟเวอร์ตัน 2-2 ในเกมลีกนัดล่าสุดก่อนที่จะเฉือนชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี นัดแรก

    ความพร้อมของหงส์แดงในเกมนี้จะไม่มี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่ารบกวนจนต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งจะทำให้กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ต้องหยุดสถิติออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมลีกเอาไว้ 94 นัดติดต่อกัน นอกจากนี้ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังคงต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ โดยเป็นที่คาดกันว่า จอมหนึบทีมชาติบราซิล จะกลับมาเฝ้าเสาได้ก่อนสิ้นเดือนนี้

    แต่มีข่าวดีคือ ติอาโก้ อัลกันตาร่า พร้อมที่จะกลับมาช่วยทีมในเกมนี้หลังจากที่สลัดอาการบาดเจ็บจากการปะทะกับ ริชาร์ลิซอน จน ดาวยิงบราซิเลียน โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมลีกนัดก่อน

    ในแผงหลัง ฟาบินโญ่ คงจะได้รับโอกาสลงสนามในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กต่อไป โดยจะจับคู่กับ โจ โกเมซ เช่นเดิมหลัง อดีตแข้ง อาแอส โมนาโก โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในเกมกับอาแจ็กซ์ถึงแม้ว่า โฌแอล มาติป พร้อมที่จะกลับมาช่วยทีมแล้วก็ตาม

    ส่วนในแดนหน้า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน คงจะยึดผู้เล่นชุดเดิมต่อไป ซึ่งก็คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ทั้งที่ ฟีร์มีโน่ ถูกตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับสภาพความฟิตของเขา รวมทั้ง ดีโอโก้ โชต้า ที่ได้ลงมาเป็นตัวสำรองจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมกลางสัปดาห์ก็ตาม

    ด้าน นาบี เกอิต้า และ คอสตาส ซิมิกาส ก็สลัดอาการบาดเจ็บเตรียมกลับเข้ามาสู่ทีมอีกครั้ง ขณะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยังคงต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน

เชฟฯ ยูไนเต็ด :

    เชฟฯ ยูไนต็ด ยังคงหวานหาชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลนี้ไม่เจอหลังไม่ชนะใครมา 6 เกมแล้วรวมทุกรายการ เกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านเสมอกับฟูแล่ม 1-1

    ทีมเยือนกำลังประสบปัญหาผู้เล่นโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แจ็ค โอคอนเนลล์ ที่โดนโรคเดี้ยงบริเวณหัวเข่าเล่นงานจนต้องเข้ารับการผ่าตัดและคงจะต้องพักรักษาตัวในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ รวมทั้ง จอห์น เฟล็ค, ลีส์ มูสเซ และ แม็กซ์ ลอว์ ที่ถูกส่งประเดิมสนามในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่อยู่ในสนามได้เพียง 19 นาทีเท่านั้นหลังจากที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บและอาจจะไม่สามารถลงสนามได้ในเกมนี้

    ทำให้ คริส ไวล์เดอร์ ผู้จัดการทีม คงจะส่ง อีธาน อัมปาดู ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยที่ เอ็นดา สตีเว่นส์ จะขยับจากตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายกลับไปยืนตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย

    ขณะที่ในแนวรุก รีอาน บรูว์สเตอร์ จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงเผชิญหน้ากับต้นสังกัดเก่า ซึ่งไวล์เดอร์ก็หวังว่าบรูว์สเตอร์จะงัดฟอร์มเก่งออกมาเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจ้านายเก่า รู้สึกว่า เขาคิดผิดที่ปล่อยตัวแข้งรายนี้ออกจากทีม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ติอาโก้ อัลกันตาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
    ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

    เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : อารอน แรมส์เดล – คริส บาแชม, อีธาน อัมปาดู, จอห์น เอแกน – จอร์จ บัลด็อค, จอห์น ลุนด์สแตรม, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, ซานเดอร์ เบิร์ก, เอ็นดา สตีเว่นส์ – โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่, รีอาน บรูว์สเตอร์
    ผู้จัดการทีม : คริส ไวล์เดอร์

    ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

คนนี้แฟนหงส์ถูกใจไหม? สื่อยันลิเวอร์พูลเดินหน้าซื้อกองหลังคนใหม่แล้ว

สื่ออังกฤษ ตีข่าว ลิเวอร์พูล เปิดฉากคุยกับทีมเมืองเบียร์แล้วเพื่อขอซื้อกองหลังมาเสริมทัพช่วงปีใหม่ หลัง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ต้องพักยาว
   
ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินหน้าเจรจากับ ชาลเก้ 04 สโมสรในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน เพื่อขอซื้อตัว โอซาน คาบัค ปราการหลังดาวรุ่งทีมชาติตุรกี มาเข้าถิ่น แอนฟิลด์ ช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้แล้ว ตามรายงานจาก ซันเดย์ มิร์เรอร์ สื่อเมืองผู้ดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

"หงส์แดง" กำลังมองหาเซนเตอร์แบ็กคนใหม่เข้ามาเสริมทัพ เพราะ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังคนเก่งต้องพักยาวจากการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า หลังโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวาร เอฟเวอร์ตัน เข้าสกัดหนักใส่ในเกมลีกที่เสมอกัน 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา

ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา "หงส์แดง" เคยมีข่าวกับ คาบัค วัย 20 ปี มาแล้ว และเวลานั้น ชาลเก้ ตั้งค่าตัวไว้ที่ 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) แต่หลังจากที่ "ราชันสีน้ำเงิน" ออกสตาร์ตฤดูกาลย่ำแย่ทำให้พร้อมลดราคานักเตะลงมาเหลืออยู่ที่ราว 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,200 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล พร้อมจะจ่ายค่าตัวเบื้องต้นให้ ชาลเก้ จำนวน 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 800 ล้านบาท) พร้อมกับโบนัสอีกส่วนหนึ่งตามเงื่อนไขที่ทำได้ ส่งผลให้ทั้งสองสโมสรยังต้องคุยกันอีกเพื่อให้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน

ทั้งนี้ คาบัค มีสไตล์การเล่นที่ดุดัน แข็งแกร่ง กล้าลุย รวดเร็ว และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี รวมทั้งมี ฟาน ไดค์ เป็นไอดอลของตัวเองด้วย

แมนซิตี้มี”เดอ บรอยน์”บุกมาร์กเซยของ”โตแว็ง”ลุ้นยึดหัวฝูงชปล.

"เรือใบสีฟ้า" แมนซิตี้ จำเป็นต้องเค้นฟอร์มเก่งให้ได้ หลังนัดลีกล่าสุดพลาดเสมอ หากชนะเกมนี้จะยึดหัวฝูงกลุ่มต่อไป งานนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ขับเคลื่อนเกมรุกบุกถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย ที่มี ฟลอริย็อง โตแว็ง เป็นทีเด็ดแมตช์นี้ ในการแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี คืนวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563
ปรีวิวยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี
คืนวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563
โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) – แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)
เวลา : 03.00 น. ถ่ายทอดสด : บีอินส์ สปอร์ต 1
สนาม : ออเร้นจ์ เวโลโดรม

    โอแอ็ม สตาร์ตรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. ด้วยการออกไปแพ้โอลิมเปียกอส 0-1 และบุกชนะลอริยองต์ 1-0 ในเกมลีก เอิง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

    กุนซือ อันเดร วิลลาช-โบอาช ไร้ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน หลังจากได้ ดิมิทรี ปาเยต มิดฟิลด์เชิงรุกพ้นโทษแบน 2 นัด ในลีก เอิง กลับมาพร้อมช่วยทีม ส่วนบูบาการ์ กามาร่า แข้งทีมชาติฝรั่งเศส ชุดยู-21 หายเจ็บที่หน้าแข้ง กลับคืนสนามแล้ว

    เกมนี้ สตีฟ ม็องด็องด้า นายทวารกัปตันทีมลงเฝ้าเสา แนวรับประกอบด้วย ฮิโรกิ ซากาอิ, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, เลโอนาร์โด้ บาเลร์ดี้ และ จอร์ดาน อมาวี่

    แดนกลาง วาล็องแต็ง รงชิเย่ร์ ขับเคลื่อนเกมร่วมกับ บูบาการ์ กามาร่า และ มอร์กกาน ซ็องซง 

    แผงรุกจัดสามประสาน ฟลอริย็อง โตแว็ง, ดาริโอ เบเนเด็ตโต้ และ ดิมิทรี ปาเยต ลงประสานงานกัน
       
    แมนฯ ซิตี้ เริ่มต้นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการพิชิตปอร์โต้ 3-1 และเสมอเวสต์แฮม 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุด

    กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขาดตัวเจ็บอย่าง แฟร์นันดินโญ่, เบนฌาแม็ง เมนดี้ และ กาเบรียล เชซุส 

    ส่วน เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเพิ่มต้องรอทดสอบความฟิต ซึ่งโอกาสชวดสูงมาก เช่นเดียวกับ เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ และ นาธาน อาเก้ สองแนวรับที่ไม่สมบูรณ์

    ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ฟิตกลับมาเป็นสำรองได้ในเกมล่าสุด และน่าจะกลับมาออกสตาร์ตตัวจริง โดย ราฮีม สเตอร์ลิง จะยืนเป็นหน้าเป้า พร้อมเปิดโอกาสให้ เฟร์ราน ตอร์เรส และ ฟิล โฟเด้น สลับมาเป็น 11 คนแรก

    แดนกลาง โรดรี้ เอร์นานเดซ กับ อิลคาย กุนโดกัน คอยขับเคลื่อนเกม

    สำหรับแนวรับยึดชุดเดิม ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เอริก การ์เซีย และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เช่นเดียวกับนายประตู เอแดร์ซอน โมราเอส
    

11 นักเตะตามคาด   

    โอลิมปิก มาร์กเซย (4-3-3) : สตีฟ ม็องด็องด้า – ฮิโรกิ ซากาอิ, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, เลโอนาร์โด้ บาเลร์ดี้, จอร์ดาน อมาวี่ – วาล็องแต็ง รงชิเย่ร์, บูบาการ์ กามาร่า, มอร์กกาน ซ็องซง – ฟลอริย็อง โตแว็ง, ดาริโอ เบเนเด็ตโต้, ดิมิทรี ปาเยต

    เทรนเนอร์ : อันเดร วิลลาช-โบอาช

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เอริก การ์เซีย, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์ – เฟร์ราน ตอร์เรส, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิล โฟเด้น

    เทรนเนอร์ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 

    ผู้ตัดสิน : โทเบียส สตีเลอร์ (เยอรมัน)    

เผยแมนยูวืดจอมแกร่งไลป์ซิกตอนค่าตัวสุดถูก ตอนนี้จะเอาต้องจ่ายทะลุ2.2พันล้าน!

สื่อเผย ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส เกือบได้ย้ายมาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่สุดท้ายต้องล่มเพราะ "ปีศาจแดง" เหนียวเงินแค่ 2 แสนปอนด์เท่านั้น
   
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พลาดได้ตัว ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งคนเก่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก มาเข้าถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างน่าเสียดายเมื่อปี 2015 ตามรายงานจาก เดอะ มิร์เรอร์ สื่อเมืองผู้ดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ในเวลานั้น อูปาเมกาโน่ ที่อายุ 16 ปี เล่นอยู่กับ วาล็องเซียนส์ สโมสรในฝรั่งเศส และ "ปีศาจแดง" ก็เกือบจะได้ตัว หลังนักเตะ, คุณแม่ และเอเยนต์ เดินทางมาแดนผู้ดีเพื่อตกลงเรื่องย้ายทีมแล้ว

อย่างไรก็ตาม อูปาเมกาโน่ ต้องเดินทางกลับฝรั่งเศส พร้อมกับความผิดหวัง หลังจากทั้งสองสโมสรคุยกันเรื่องค่าตัวไม่ลงตัว โดย วาล็องเซียนส์ ต้องการได้ 700,000 ปอนด์ (ประมาณ 28 ล้านบาท) ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมให้แค่ไม่เกิน 500,000 ปอนด์ (ประมาณ 20 ล้านบาท) เท่านั้น

หลังจากนั้น อูปาเมกาโน่ ก็พัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นกองหลังฝีเท้าเยี่ยม และได้มีโอกาสไปเล่นให้ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก เมื่อปี 2016 ก่อนมาอยู่กับ ไลป์ซิก เมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัว 9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 360 ล้านบาท) โดยเวลานี้มีหลายทีมจับตามองทั้ง เรอัล มาดริด, อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด

ขณะที่ค่าตัวของกองหลังวัย 21 ปีในเวลานี้คาดว่าอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 55 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,200 ล้านบาท) หลังทำผลงานเยี่ยม และลงเล่นให้ ไลป์ซิก ไปแล้ว 118 นัด รวมทั้งติดทีมชาติฝรั่งเศส ไปแล้ว 3 เกม

แนวรับแกร่ง,คาวานี่เกือบยิง!ตัดเกรดแข้งแมนยูเกมเจ๊าจืดเชลซี

เกมบิ๊กแมตช์ในศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี เมื่อคืนวันเสาร์ จบลงด้วยการเสมอกันไป 0-0 โดยที่ "ปีศาจแดง" มีโอกาสได้ลุ้นมากกว่า แต่จบกันไม่คม แถมต้องซูฮกความเหนียวหนึบของนายประตูทีมคู่แข่งด้วย ส่วนแนวรับถือว่าต้องชื่นชม เพราะทำให้ "สิงห์บลูส์" แทบไม่มีโอกาสได้ลุ้นทำประตูเลย และนี่คือผลสอบของนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ละคนในแมตช์นี้
11 ผู้เล่นตัวจริง

 – ดาบิด เด เคอา : 6
  เจองานไม่หนัก ตลอดทั้งเกมได้เซฟเบาๆ หนเดียว 


 

 – อารอน วาน-บิสซาก้า : 7
  เกมรุกอาจยังไม่มีทีเด็ด แต่เกมรับยังคงไว้ใจได้ ซึ่งถือเป็นการสานต่อผลงานอันยอดเยี่ยมจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์

 – วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ : 7.5
  เป็นเกมที่เล่นได้แข็งแกร่ง รับมือได้ทุกรูปแบบ จัดการกับ ติโม แวร์เนอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม

 – แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (C) : 7
  คุมแนวรับได้ดี เคลียร์บอลทิ้งได้ตลอด และชนะการดวลลูกกลางอากาศได้แบบ 100% (5/5)

 – ลุค ชอว์ : 6
  อาจจะไร้ข้อผิดพลาด แต่ดูเหมือนเล่นแบบกองหลังสามตัวได้ดีกว่าแบบสี่ตัว แถมมีปัญหาในการรับมือกับ รีส เจมส์ บางจังหวะ


 

 – สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ : 6.5
  ช่วยเกมรับได้ดี ทำให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เล่นด้วยความยากลำบาก แต่เสียเวลากับบอลมากไปหน่อย

 – เฟร็ด : 7
  สู้กับแดนกลาง เชลซี ได้ดี โดยเฉพาะการตัดบอล ซึ่งเจ้าตัวทำได้ 3 ครั้ง ถือว่ามากสุดในทีม "ปีศาจแดง" เท่ากับ แม็คโทมิเนย์ 


 

 – ฆวน มาต้า : 6.5
  เล่นได้โอเคเลย สร้างโอกาสสวยๆ หลายครั้ง แถมมียิงได้ลุ้น 1 หนด้วย แต่โดยรวมได้บอลน้อยไปหน่อย ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงครึ่งหลัง

 – บรูโน่ แฟร์นันด์ส : 7
  อาจจะดูเงียบๆ แต่สร้างโอกาสให้เพื่อนลุ้นทำประตูถึง 4 หน มากสุดเหนือทุกคนในสนามเกมนี้


 

 – แดเนี่ยล เจมส์ : 5
  เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าผิดหวังสำหรับปีกชาวเวลส์ ไม่แปลกใจที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง

 – มาร์คัส แรชฟอร์ด : 7
  ช่วง 10 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงเน้นๆ แต่ติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ หลังนั้นก็เล่นได้อันตรายเป็นระยะ แต่การตัดสินใจจังหวะสุดท้ายยังไม่ดี

 

สำรองที่ได้ลงเล่น

 – ปอล ป็อกบา (แทน มาต้า น. 58) : 6.5
  ช่วยยกระดับการทำเกมในแดนกลางได้ดี แต่ช่วงท้ายเกมน่าจะทำได้ดีกว่านี้กับการยิงบริเวณกรอบเขตโทษ

 

 – เอดินสัน คาวานี่ (แทน เจมส์ น. 58) : 6
  ใช้เวลาอยู่ในสนามเพียงไม่กี่วินาที ก็ได้ลุ้นทำประตูแบบเสียวๆ ทันที และช่วงท้ายเกมมีได้ลุ้นอีกครั้งด้วย แม้ไร้สกอร์ แต่ก็โชว์ให้เห็นถึงเซนส์บอลของดาวยิงระดับเวิลด์คลาส

 – เมสัน กรีนวู้ด (แทน แม็คโทมิเนย์ น. 83) : –
  ไม่สามารถให้คะแนนได้

ลงตัว!แกรี่เผยโซลชาอาจเลือกถูก3หนุ่ม3มุมแผงมิดฟิลด์

แกรี่ เนวิลล์ ระบุ การจับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด เป็นตัวจริงร่วมกันอาจจะเป็นการเลือกที่ถูกต้องของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะมันทำให้เกมรับเหนียวแน่นขึ้นจนเสียเพียง 2 ลูกใน 3 นัดหลังสุด ต่างกับ 5 เกมแรกที่เสียไปถึง 11 ประตู พร้อมชี้ว่าแท็คติกแบบนี้ก็เคยส่งผลดีกับ โซลชา มาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน
    แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความเห็นว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" อาจจะทำถูกแล้วที่จัดให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด ลงเล่นเป็นตัวจริงร่วมกัน เพราะมันทำให้เกมรับของทีมดีขึ้น

    โซลชา โดนตั้งคำถามถึงเรื่องการจัดทีมเยอะพอตัวในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่ส่งทั้ง ปอล ป็อกบา กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เป็นตัวจริง และเลือกใช้งาน บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ รวมถึง เฟร็ด เป็น 3 ประสานในแดนกลางตั้งแต่ต้นเกมในช่วง 3 นัดหลังสุด แต่มันก็ทำให้พวกเขาชนะ 2 เกมกับเสมอ 1 นัด รวมถึงเสียเพียง 2 ประตูเท่านั้น ต่างกับ 5 เกมก่อนหน้านั้นที่เสียไปถึง 11 ประตูและแพ้ 2 เกมแบบฟ้ากับเหว

    เนวิลล์ เผยว่า "ถ้าคุณลองดูเกมนัดเปิดฤดูกาลของ แมนฯ ยูไนเต็ด (แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-3) แล้วล่ะก็ คุณก็จะเห็นว่าพวกเขาเคยให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ยืนคู่กับ ป็อกบา ในตำแหน่งกลางสนาม ประเด็นคือ ป็อกบา เป็นนักเตะที่สไตล์การเล่นต่างจากทั้ง เฟร็ด, แม็คโทมิเนย์ และ เนมานย่า มาติช อย่างสิ้นเชิง ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาโดนเล่นงานได้ง่ายตามไปด้วย"

    "ป็อกบา กับ แฟร์นันด์ส ต่างก็เป็นพวกที่เน้นเกมรุกเป็นหลัก ทั้งคู่ต่างก็คิดถึงการสร้างโอกาสทำประตูรวมถึงการยิงประตูเองมากกว่าการเล่นเกมรับ มันทำให้แนวตรงหน้าแผงหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือกองกลางที่ช่วยเกมรับแค่คนเดียว ซึ่งมันก็ทำให้วันนั้น พาเลซ ฉีก แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นชิ้นๆ แนวรุกของคู่แข่งไปถึงแผงแบ็กโฟร์ง่ายเกินกว่าที่ควรจะเป็นมากๆ แถมยังเกิดชอตแบบนั้นเยอะเกินไปด้วย ซึ่งเดิมที 2 เซนเตอร์แบ็กของพวกเขาก็ไม่ใช่พวกที่เก่งในเรื่องการดวลตัวต่อตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ไม่มีความเร็วตั้งแต่แรก"

    "หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีเกมที่ปล่อยให้คู่แข่ง (หมายถึงเกมลีกที่ชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-2) ได้ยิงหลายหน ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะเจอวันที่เลวร้ายในเกมกับ ท็อตแน่ม  ที่พวกเขาแพ้แบบขาดลอย 1-6"

    "คำถามคืออะไรที่มันแตกต่างออกไปหลังจากพ้นโปรแกรมเกมทีมชาติไปแล้ว ? นั่นก็คือ โอเล่ กลับไปจัดทีมตามแบบที่ช่วยให้เขาทำผลงานได้ดีเมื่อฤดูกาลก่อน ซึ่งได้แก่การทำให้เกิดกรอบสี่เหลี่ยมในด้านเกมรับอันประกอบไปด้วย วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แม็กไกวร์, เฟร็ด, แม็คโทมิเนย์ ทั้งหมดต่างก็เป็นนักเตะประเภทที่เน้นเกมรับเป็นหลัก พวกเขาต่างก็เข้าหาบอลได้เร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 กองกลาง (หมายถึง เฟร็ด กับ แม็คโทมิเนย์) ที่ยืนอยู่หน้าคู่เซนเตอร์แบ็ก"

    "ดังนั้นทุกครั้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนคู่แข่งบุกใส่ และบอลไปถึงแผงกลางของ เชลซี แล้วน่ะ พวกเขาเหล่านั้นต่างก็พุ่งเข้าใส่นักเตะของ เชลซี อย่างรวดเร็ว การใช้แท็กติกนี้ยังช่วยทำให้ อารอน วาน-บิสซาก้า กับ ลุค ชอว์ ฟูลแบ็กทั้ง 2 ข้างของ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นแบบดุดันได้ด้วย โดยที่กองกลางทั้ง 2 คนก็เล่นแบบดุดันในพื้นที่ของพวกเขา พวกเขาทำงานร่วมกันได้ดี และมันก็ทำให้ ลินเดอเลิฟ กับ แม็กไกวร์ ซึ่งเป็น 2 กองหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนเล่นงานน้อยลงเช่นกัน"

    "สำหรับผมแล้วมันแทบจะเหมือนกับว่า โอเล่ คิดว่า -ฉันต้องกลับไปสู่พื้นฐานที่ดีซะแล้ว ฉันจะเสียประตูมากมายก่ายกองต่อไปไม่ได้- แน่นอนว่าเขามีปัญหากับเรื่องการจัดทีมในกรณีของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กับ ป็อกบา (ที่ไม่ได้เป็นตัวจริง) แต่สัปดาห์นี้เขากลับไปสู่พื้นฐานของตัวเอง และมันทำให้คู่แข่งเล่นงานพวกเขาได้ยาก พร้อมกับส่งผลให้ทีมเสียประตูน้อยลง และโดนคู่แข่งยิงใส่น้อยกว่าเดิมตามไปด้วย"

พร้อมแล้ว !! เอดินสัน คาวานี่ ฟิตเต็มถังลุ้นยิง เชลซี แม็กไกวร์ กรีนวู้ด คืนทีม

      เอดินสัน คาวานี่ ศูนย์หน้าป้ายแดง แมนยู ลุ้นประเดิมสนามเกมแรกหลังมีรายชื่ออยู่ในทีมชุดเปิดบ้านรับมือ เชลซี โปรแกรมบอล พรีเมียร์ลีก เสาร์นี้ หลังพลาดเกมกับ เปแอสเช ช่วงกลางสัปดาห์ จากการรายงานของ Metro สื่อชื่อดังต่างประเทศ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2563

        แมนยู ที่เพิ่งคืนฟอร์มเก่ง หลังผลบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาบุกไปเอาชนะ เปแอสเช ได้ถึงถิ่น 2-1 และโปรแกรมบอล พรีเมียร์ลีก เสาร์นี้ทีมปีศาจแดงมีคิวเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำศึกบิ๊กแมตช์กับ เชลซี โดยศูนย์หน้าป้ายแดงอย่าง เอดินสัน คาวานี่ ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนาม

        ดาวยิงวัย 33 ปี พลาดการลงเล่นกับทีมเก่าของเขาช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์ แต่สำหรับเกมในสุดสัปดาห์นี้ เอดินสัน คาวานี่ พร้อมแล้วที่จะลงสนามเป็นเกมแรกในสีเสื้อปีศาจแดง เช่นเดียวกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ เมสัน กรีนวู้ด ที่พลาดเกมกับ เปแอสเช มาด้วยเช่นกัน

        "ผมหวังว่าพวกเขาทั้งสามคนจะฟิตสมบูรณ์และพร้อมที่จะเป็นตัวเลือกในเกมกับทีมสิงห์บลูส์สุดสัปดาห์นี้ แน่นอนว่าเรามีการฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายเพื่อเตรียมตัวซึ่งพวกเขาทุกคนล้วนมีโอกาสที่จะได้ลงสนาม เอดินสัน จะต้องฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ให้ครบ เช่นเดียวกับ เมสัน และ แฮร์รี่ ซึ่งมันผ่านไปได้ด้วยดี" โซลชาร์ กล่าว

        ทั้งนี้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ยังคงติดโทษแบนอยู่ ทำให้สตาร์ทีมชาติอุรุกวัยมีลุ้นออกสตาร์ตเป็นตัวจริงกับ เชลซี โดยคาดว่ากุนซือชาวนอร์เวย์จะใช้แผนการเล่นเดียวกับเกมที่บุกชนะทีมแชมป์ลีกเอิง

ทอฟฟี่แตก!อันเช่เปิดใจหลังเกมเอฟเวอร์ตันโดนเซาธ์แฮมป์ตันสอย

คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือเอฟเวอร์ตัน เปิดใจถึงผลงานของทัพ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ในแมตช์ออกไปโดน เซาธ์แฮมป์ตันสอย เกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมชี้จังหวะที่ ลูก้าส์ ดีญ โดนใบแดงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมสำหรับนักเตะเลย
    คาร์โล อันเชลอตติ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของ เอฟเวอร์ตัน ยอมรับแมตช์นี้ลูกทีมของตนทำผลงานได้น่าผิดหวัง ส่งผลให้ต้องออกไปพ่าย "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน 0-2 ที่สนามเซนต์ แมรี่ส์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา

    เซาธ์แฮมป์ตันทำผลงานได้อย่างดุดันโดนได้สองประตูจาก เจมส์ วอร์ด-เพราส์  กับ เช อดัมส์ ในช่วงครึ่งแรก ขณะที่ครึ่งหลังในนาทีที่ 72 "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ต้องมาเสียเปรียบเมื่อ ลูก้าส์ ดีญ ไปเข้าหนักใส่ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

    สำหรับการออกไปแพ้ "นักบุญ" ในแมตช์นี้ทำให้ เอฟเวอร์ตัน พ่ายเป็นเกมแรกในลีกฤดูกาลนี้ ทำให้ตอนนี้ทีมมี 13 คะแนนเท่ากับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แต่ผลต่างประตูได้เสียเหนือกว่าจึงยังคงยึดตำแหน่งจ่าฝูงลีกต่อไป โดยหลังจบเกม อันเชลอตติ ยอมรับว่าผลงานของนักเตะในแมตช์นี้น่าผิดหวังมากๆ

    "มันไม่ใช่วันที่ดีและก็ไม่ใช่ฟอร์มที่ดีสำหรับเรา เราอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการพ่ายแพ้เกมแรก และผมรู้สึกว่าเราต้องพัฒนาต่อไปอีก แน่นอนว่าเราไม่อยากแพ้ แต่ในวงการฟุตบอลเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ เราต้องมองไปข้างหน้าจากเกมนี้ พร้อมกับยังคงมีความเชื่อมั่นอย่างที่เราเคยมี แต่เรื่องแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้"

    ขณะเดียวกัน "คาร์เล็ตโต้" ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ ดีญ โดนไล่ออกจากสนามว่า "ผมคิดว่ามันรุนแรงมากๆ เราจะทำการอุทธรณ์ในเรื่องนี้ มันไม่ใช่จังหวะที่เจตนาทำเลย มันไม่ใช่พฤติกรรมที่รุนแรง จริงๆ แล้วแค่ใบเหลืองก็พอแล้ว แต่นี่ไม่ใช่พฤติกรรมที่รุนแรง และใบแดงถือว่าไม่ยุติธรรม"

เลสเตอร์เช็กฟิต “วาร์ดี้”,อาร์เซน่อลส่ง “ปาร์เตย์” ตัวจริงหนุน “โอบาเมย็อง”โป้ง

"จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องลุ้น เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงตัวเก่งฟิตสมบูรณ์ทันลงช่วยทีมล่าตาข่ายเกมเยือนถิ่น "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่คาดว่าจะส่ง โธมัส ปาร์เตย์ ลงตัวจริงป้อน ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ปิดสกอร์ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier HD1 (เวลา : 02.15 น.)
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563
อาร์เซน่อล   –   เลสเตอร์ ซิตี้
ถ่ายทอดสด : True Premier HD1   (เวลา : 02.15 น.)

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซน่อล :

    เจ้าบ้านปืนใหญ่ภายใต้การคุมทัพของ มิเกล อาร์เตต้า ผลงานนัดล่าสุดบุกชนะ ราปิด เวียนนา 2-1 ในศึกยูโรปา ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ และในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ก่อน แพ้ แมนฯซิตี้ 0-1

    ความพร้อมในเกมนี้ ต้องรอเช็กความฟิตของ วิลเลี่ยน และ ดานี่ เซบายอส ซึ่งมีอาการบาดเจ็บติดตัวเล็กน้อย แค่คาดว่าจะฟิตทันเกมวันนี้ และได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ส่วน

    ร็อบ โฮลดิ้ง กองหลังที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ ยังต้องนั่งอยู่ข้างสนามต่อไป

    คาดว่า มิเกล อาร์เตต้า จะมาในระบบ 4-3-3 นำโดย กัปตันทีม ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, ดาวิด ลุยซ์, วิลเลี่ยน, ดานี่ เซบายอส และ โธมัส ปาร์เตย์ นักเตะใหม่มีโอกาสได้เล่นตัวจริงเป็นเกมแรกด้วย

เลสเตอร์ ซิตี้ :

    ด้านทีมเยือน เลสเตอร์ ของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พาทีมแพ้ในลีกมา 2 นัดติดต่อกัน แต่นัดล่าสุดลงเล่นในศึกยูโรปา ลีก เมื่อกลางสัปดาห์เอาชนะ ซอร์ย่า ได้ 3-0

    โดยเกมนี้ทีมจะไม่มี  ริคาร์โด้ เปเรยร่า, คักลาร์ โซยุนชู, แดเนียล อามาร์ตีย์ และ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด แต่ในรายของ เจมี่ วาร์ดี้ ศูนย์หน้าตัวเก่งที่บาดเจ็บที่น่องและพลาดการลงสนามมา 3 นัดหลังสุด นัดนี้ต้องรอเช็กความฟิต แต่คาดว่าจะฟิตและลงช่วยทีมได้

    การจัดทัพ ทีมเยือนน่าจะมาในระบบเก่ง 4-1-4-1 โดยมี เวสลี่ย์ โฟฟาน่า กับ จอนนี่ อีแวนส์ เป็นคู่เซนเตอร์แบ็ก ด้านแบ็กขวา-ซ้ายใช้ทาง ทิโมธี กาสตานเญ่ กับทาง เจมส์ จัสติน แดนกลางมี น็อมปาลิส เมนดี้ เป็นตัวตัดเกม ด้านตัวทำเกมสองคน เป็น ยูริ ตีเลอมันส์ กับทาง เจมส์ แมดดิสัน ส่วนฝั่งริมเส้นขวาซ้าย ใช้งาน อาโยเซ่ เปเรซ กับทาง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ และ กองหน้าตัวเป้า เป็น เจมี่ วาร์ดี้ ที่กลับมาลงเล่นให้กับทีมได้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

    อาร์เซน่อล (4-3-3) : แบรนด์ เลโน่ – เอ็คตอร์ เบเยริน, ดาวิด ลุยซ์, กาเบรียล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นี่ย์ – ดานี่ เซบายอส, โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาคา – นิโกล่าส์ เปเป้, วิลเลี่ยน, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง
    ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า

    เลสเตอร์ ซิตี้ (4-1-4-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ทิโมธี กาสตานเญ่, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, เจมส์ จัสติน – น็อมปาลิส เมนดี้ – อาโยเซ่ เปเรซ, ยูริ ตีเลอมันส์, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ – เจมี่ วาร์ดี้ (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่)
    ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

    ผู้ตัดสิน : เคร็ก เพาสัน