ไม่เดือดร้อน! “เดอ บรอยน์” ยักไหล่เมสซี่ซบแมนซิตี้

เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยักไหล่ไม่ยี่หระว่า ลิโอเนล เมสซี่ จะย้ายมาเล่นกับ "เรือใบสีฟ้า" หรือไม่หลังจบฤดูกาลนี้ ชี้หากย้ายมาจริงก็ถือเป็นเรื่องดี แต่หากไม่มาทีมก็ยังคงมีนักเตะชั้นยอดอยู่มากมาย

เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันตนไม่สนใจว่า ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าอัจฉริยะชาวอาร์เจนไตน์ จะย้ายมาเล่นในถิ่นเอติฮัดหรือไม่ ในช่วงซัมเมอร์หน้า

สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินา ตกเป็นข่าวพยายามที่จะย้ายหนี "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์นี้ และมีรายงานออกมาเป็นระลอกว่านักเตะเลือกที่จะย้ายไปร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือสมองเพชร หลังจากที่ทั้งคู่เคยสร้างความเกรียงไกรร่วมกันสมัยอยู่กับ "เจ้าบุญทุ่ม"

แม้สุดท้ายแล้วการย้ายทีมจะไม่เกิดขึ้นในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้ก็ตาม แต่บอร์ดบริหารแมนฯ ซิตี้ ยังคงอยากได้ เมสซี่ มาร่วมทีม และพร้อมที่จะรอคอยโอกาสที่จะได้เซ็นสัญญากับ กองหน้าเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 6 สมัย หลังจบฤดูกาล 2020/2021

เดอ บรอยน์ วัน 29 ปี เปิดใจว่าตนไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจว่าจะได้ร่วมงานกับ เมสซี่ หรือไม่ "ผมไม่สนใจจริงๆ ถ้าเขาย้ายมาร่วมทีม มันก็เป็นเรื่องดี ถ้าเขาไม่ได้ย้ายมาเราก็ยังคงมีนักเตะชั้นยอดอยู่ในสโมสรซึ่งผมก็มีความสุขในการเล่นร่วมกับพวกเขา ดังนั้นนั่นไม่ใช่ปัญหาเลย"

กลัวอาเดรียน!ลิเวอร์พูลเล็งสอยโกลสเปอร์สเสริมทัพ

อินดิเพนเดนท์ สื่อดังในเมืองผู้ดี ตีข่าว ลิเวอร์พูล เริ่มขยับตัวเรื่องผู้รักษาประตูโดยตอนนี้ใช้เวลาช่วงวันสุดท้ายตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้ โดยทำการติดต่อกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพื่อหวังดึง เปาโล กาซซานิก้า โกลมือ 3 มาเป็นกำลังสำรองของ อลีสซง เบ็คเกอร์ หลังทีมไม่วางใจใช้งาน อาเดรียน ที่มักจะพลาดจนเป็นเหตุให้ทีมพังหลายครั้ง

ลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พยายามติดต่อกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพื่อเปิดการเจรจาเรื่องจากดึงตัว เปาโล กาซซานิก้า ผู้รักษาประตูสำรองทัพ "ไก่เดือยทอง" มาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ ช่วงที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ

สถานการณ์ของ "หงส์แดง" เกี่ยวกับตำแหน่งนายทวารไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ได้ออกมาเผยข่าวร้ายว่า อลีสซง ซึ่งได้รับบาดเจ็บช่วงฝึกซ้อมจนพลาดลงสนามเกมแพ้ยับ แอสตัน วิลล่า ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่ไหล่ราวๆ 4-6 สัปดาห์

ด้วยเหตุนี้ทำให้ "เดอะ เร้ดส์" จำเป็นต้องหานายทวารสำรองเพื่อเป็นยางอะไหล่ หลังจากที่พวกเขาไม่กล้าฝากความหวังเอาไว้กับ อาเดรียน โกลชาวสแปนิช ที่เพิ่งโชว์ห่วยทำผิดพลาดมหันต์จนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แชมป์เก่าออกไปโดน วิลล่า ถล่มยับไม่นับญาติสกอร์ 2-7

"อินดิเพนเดนท์" สื่อดังในอังกฤษ รายงายว่า ลิเวอร์พูล เล็งที่จะดึง กาซซานิก้า ซึ่งเป็นมือ 3 ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาร่วมทีม เพื่อหวังที่จะนำมาช่วยเฝ้าเสาให้กับ "หงส์แดง" ในช่วงที่ ผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล อยู่ในช่วงรักษาอาการบาดเจ็บ

แผนบันได 3 ขั้น ลิเวอร์พูล ก่อนตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้ปิดตัว

สาวก "เดอะ ค็อป" คงรู้สึกตกตะลึงกันเป็นทิวแถวที่เห็น ลิเวอร์พูล ทีมรักจัดการคว้าตัวผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมแกร่งแบบชุดใหญ่ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้หลายคนรู้สึกหงุดหงิดกับการที่ "หงส์แดง" ไม่มีความเคลื่อนไหวในการซื้อนักเตะในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้
 
หลังจากที่คว้าตัว คอสตาส ซิมิคาส แบ็กซ้ายชาวกรีกมาจาก โอลิมเปียกอส ช่วงต้นเดือนกันยายนี้ "เดอะ เร้ดส์" ก็ไม่ค่อยมีการขยับซื้อนักเตะเพิ่ม มีแค่ข่าวว่าสนใจ หรือกำลังเล็งคนโน้นคนนี้ แต่บทสรุปสุดท้ายก็ไม่ได้จริงจังกับผู้เล่นเหล่านั้นมากนัก

อย่างไรก็ตามช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้แฟนบอลตาต้องลุกวาวเมื่อจัดการคว้าตัว ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลางเชิงสูงมาจาก "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เมื่อวันศุกร์จากนั้นแค่ 1 วันพวกเขาก็ประกาศเซ็นสัญญากับ ดีโอโก้ โชต้า ปีกชาวโปรตุกีส ซึ่งนั่นทำให้ขุมกำลังในเชิงลึกของทีมแข็งแกร่งขึ้นทันตาเห็น

 

เชลซีเตรียมแบกภาระหนักหากปล่อยเกปาไม่ได้

เชลซี พยายามดิ้นสุดตัวที่จะปล่อย เกปา อาร์รีซาบาลาก้า โกลเลือดกระทิงดุออกจากทีมก่อนตลาดพ่อค้าแข้งปิดวันจันทร์นี้ เพราะหากไม่สามารถหาทีมไหนซื้อหรือยืมนักเตะไปได้ นั่นหมายความว่า "สิงห์บลูส์" ต้องแบกรับค่าเหนื่อยจำนวน 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในช่วงที่เหลืออยู่ของซีซั่นนี้

เชลซี สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจจะต้องแบกภาระจ่ายค่าเหนื่อย เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูชาวสแปนิช จำนวน 5 ล้านปอนด์ (ราว 190 ล้านบาท) หากไม่มีทีมไหนยื่นข้อเสนอคว้าตัวนักเตะไปร่วมสังกัด จากการเปิดเผยของ เดอะ ซัน สื่อดังในเมืองผู้ดี

เกปา ทำผลงานไม่ค่อยน่าอภิรมณ์มากนักในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยเจ้าตัวมักจะเล่นผิดพลาดบ่อยครั้ง ส่งต้นสังกัดจำเป็นต้องดึงตัว  เอดูอาร์ เมนดี้ โกลทีมชาติเซเนกัล มาร่วมทีม ซึ่งทำให้สถานการณ์ในการเป็นมือ 1 ของ นายด่านเลือดกระทิงดุ เริ่มสั่นคลอน

สำหรับตอนนี้ เชลซี มีแนวคิดที่จะปล่อย เกปา ออกไปแต่การตั้งราคาสูงถึง 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,280 ล้านบาท) ทำให้ไม่มีสโมสรไหนกล้าที่จะทุ่มเงินเพื่อดึง นายด่านวัย 25 ปีไปเฝ้าเสา และนั่นทำให้ "สิงห์บลูส์" มีแนวคิดที่จะส่งนักเตะไปเล่นแบบยืมตัว

ที่สำคัญหาก เชลซี ไม่สามารถหาสโมสรไหนก็ตามที่สนใจอยากใช้บริการ เกปา ไม่ว่าจะซื้อถาวรหรือยืมตัว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องแบกรับค่าเหนื่อยของนักเตะซึ่งมีแววจะต้องนั่งตบยุงในซุ้มม้านั่งสำรอง จำนวน 150,000 ปอนด์ (ราว 5.7 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์

ฉะนั้นหนทางเดียวที่จะช่วยเซฟเงินในบัญชีของสโมสรก็คือต้องพยายามปล่อย เกปา ออกไปให้ทันก่อนตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์จะปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคมนี้ แต่หากสุดท้ายไม่สามารถปล่อยนักเตะออกไปได้ เชลซี จะต้องแบกภาระค่าเหนื่อยของเจ้าตัวในช่วงที่เหลืออยู่ของซีซั่นนี้ประมาณ 5 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

 

สื่อดังตีข่าวลิเวอร์พูล,เรอัลมาดริดยังหมายตา “เอ็มบัปเป้”

สื่อฝรั่งเศส รายงาน ลิเวอร์พูล กับ เรอัล มาดริด ยังคงจับตามสถานการณ์ของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ หัวหอกปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาเสริมแกร่ง หลังนักเตะแสดงจุดยืนชัดเจนเรื่องการโบกมือลา "เปแอสเช" ในซัมเมอร์หน้า

เลกิ๊ป สื่อชั้นนำในดินแดนน้ำหอม รายงานว่า "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยังพยายามติดต่อกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าเลือดเฟร้นช์ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส อย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังจะคว้าตัวมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์หน้า

เอ็มบัปเป้ จะเหลือสัญญากับ "เปแอสเช" อีกแค่ปีเดียวเท่านั้น เมื่อจบฤดูกาล 2020/2021และนักเตะตกเป็นข่าวมาตลอดว่าได้เข้าไปพูดคุยกับบอร์ดบริหารของต้นสังกัดเพื่อยืนยันเรื่องความต้องการย้ายออกจากถิ่นปาร์ก เดส์ แพร็งซ์  ในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า

ด้วยเหตุนี้ทำให้มีหลายสโมสรชั้นนำจับตาสถานการณ์ของนักเตะอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ เรอัล มาดริด กับ ลิเวอร์พูล ที่น่าจะเป็นแค่สองสโมสรที่ เอ็มบัปเป้ ให้ความสนใจอยากที่จะย้ายไปร่วมงานด้วย อย่างไรก็ตามดูเหมือน "หงส์แดง" จะมีภาษีดีกว่าเมื่อ ดาวยิงเลือดเฟร้นช์ เคยออกมาเปรยว่าอยากร่วมงานกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน พร้อมยกย่องว่า ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรที่น่าอัศจรรย์

กระนั้น "ราชันชุดขาว" ก็เปรียบเสมือนสโมสรในฝันของ เอ็มบัปเป้ เพราะนักเตะยอมรับว่าหากได้ย้ายไปเล่นในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ก็เหมือนกับฝันที่เป็นจริง และในชีวิตของพ่อค้าแข้งอาชีพย่อมอยากที่จะมีโอกาสวมชุด "ราชันชุดขาว"

เหนือทุกเรื่อง!เผยแหวนหมั้นโด้แพงสุดพ่อค้าแข้ง

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ลูกหนัง "ม้าลาย" ยูเวนตุส ทำอะไรต้องเหนือกว่าทุกคน ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าแหวนหมั้นที่เขามอบให้กับ จอร์จิน่า โรดริเกซ แฟนสาวมีมูลค่ามหาศาลแซงหน้าบรรดาพ่อค้าแข้งหลายขุม

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ควักเงินจ่ายไม่อั้นเพื่อคนที่รัก ล่าสุดลงทุนเงินซื้อแหวนหมั้นให้กับ จอร์จิน่า โรดริเกซ หวานใจคนงาม ซึ่งมีมูลค่าเหนือกว่าเพื่อนร่วมอาชีพทุกคน

สำหรับแหวนหมั้นวงดังกล่าวที่ สตาร์ลูกหนังกัปตันทีมชาติโปรตุเกส มอบให้กับ จอร์จิน่า คาดว่ามีมูลค่าประมาณ 615,000 ปอนด์ (ราว 23.37 ล้านบาท) โดยจากการประเมินของ แกมบลิง ดีลส์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องประดับ ระบุว่านี่คือแหวนหมั้นที่แพงที่สุดของเหล่าบรรดานักฟุตบอลอาชีพเลยทีเดียว

ก่อนหน้านี้ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติอังกฤษ และเอฟเวอร์ตัน ควักกระเป๋าซื้อแหวนหมั้นให้กับ เมแกน ดาวิสัน หวานใจด้วยสนนราคา 500,000 ปอนด์ (ราว 19 ล้านปอนด์) ตามด้วย แอชลี่ย์ โคล ตำนานฟูลแบ็กนักรัก ที่จ่ายเงินซื้อแหวนหมั้นให้ เชอรีล อดีตภรรยาจำนวน 275,000 (ราว 10.45 ล้านบาท)

ขณะที่ แฮร์รี่ เคน กองหน้า "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งเพิ่งจะผิดหวังนำทีมแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1 เกมพรีเมียร์ลีก นัดเปิดซีซั่นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รั้งบ๊วยเพราะแหวนหมั้นที่เขามอบให้กับ เคที่ กู้ดแลนด์ มีมูลค่า 180,000 ปอนด์ (ราว 6.84 ล้านบาท) เท่านั้น

ทั้งนี้ โรนัลโด้ กับ จอร์จิน่า ซึ่งคบหาดูใจกันครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปี 2016 มีทายาทสืบสกุลตามธรรมชาติชื่อ อลาน่า วัย 2 ปี และเธอยังทำหน้าที่เป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีให้กับทายาทอีก 3 คนของ "ซีอาร์ 7" ได้แก่ คริสเตียโน่ จูเนียร์ วัย 10 ขวบ, และลูกฝาแฝด เอวา กับ มาเตโอ ที่ปัจจุบันอายุ 3 ขวบ

สรุปรางวัลสำคัญสมาคมพ่อค้าแข้งอาชีพอังกฤษ

เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำผลงานได้อย่างสุดยอดเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ได้รับเสียงโหวตคว้ารางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมแห่งปีประจำฤดูกาล 2019/2020 จากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ขณะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ฟูลแบ็กจอมแอสซิสต์ สอยแข้งดาวรุ่งยอดเยี่ยมไปครองตามคาด

สำหรับรางวัลทรงเกียรตินี้ 4 สตาร์ ลิเวอร์พูล ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงชัยได้แก่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ซาดิโอ มาเน่, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ เจ้าหนูเทรนต์ รวมไปถึง ราฮีม สเตอร์ลีง สตาร์ แมนฯ ซิตี้ แต่สุดท้าย เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม ซึ่งยิงไป 13 ประตู และทำอีก 20 แอสซิสต์ คว้ารางวัลนี้ไปครอบครอง
 
ในส่วนของทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลที่ผ่านมา ก็เป็นไปได้ตามเมื่อบรรดาขุนพล "เดอะ เร้ดส์" เจ้าของแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี มีชื่อติดทีม 5 คน ตามมาด้วย แมนฯ ซิตี้ 2 ราย, เลสเตอร์ ซิตี้ 2 ราย และ อาร์เซน่อล กับ เบิร์นลี่ย์ ทีมละ 1 ราย

สรุปรางวัลสำคัญจากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ)

นักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมแห่งปี : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

นักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี : เบธานี่ อิงแลนด์  (เชลซี)

นักฟุตบอลชายดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี :  เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)

นักฟุตบอลหญิงดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี : ลอเรน เฮมพ์  (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

นักฟุตบอลผู้ที่อุทิศตนเพื่อวงการฟุตบอล : มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกแห่งปี :
ผู้รักษาประตู : นิค โป๊ป (เบิร์นลี่ย์)

กองหลัง : เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล) , เฟอร์จิล ฟาน ไดค์(ลิเวอร์พูล) , ชักลาร์ โซยุนชู (เลสเตอร์ ซิตี้), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)

กองกลาง : ดาบิด ซิลบา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล) , เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

กองหน้า : เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์ ซิตี้),  ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยอง (อาร์เซน่อล) , ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล)

เพื่อนกันตลอดไป ! เหตุผลสำคัญ ฟาน เดอ เบ็ค เลือกใส่เบอร์ 34

"เพื่อนกันไม่ได้เป็นกันแค่วันสองวัน แต่มันคบกันจนวันตาย" นี่คือเหตุผลที่ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กองกลางชาวดัตช์ เรียกร้องขอสวมเสื้อหมายเลข 34 กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อเป็นเกียรติให้กับ อับเดลฮัค นูริ เพื่อนสนิทของเขา ที่เพิ่งฟื้นตัวจากอาการป่วยจนเป็นเหตุให้สมองได้รับความเสียหาย
    ฟาน เดอ เบ็ค กับ นูริ เป็นเพื่อนซี้ปึ้กกันตั้งแต่สมัยที่ทั้งสองคนอยู่ในศูนย์ฝึกเยาวชนอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม โดยฝ่ายหลังต้องเจอกับช่วงเวลาที่สุดเลวร้ายเมื่อต้องอยู่ในอาการโคม่าหลับไป 2 ปี 8 เดือน กับอีก 19 วัน หลังมีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติจนวูบลงคาสนามในเกมที่ตนสังกัด อุ่นเครื่องกับ แวร์เดอร์ เบรเมน ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม ปี 2017

    จากอาการป่วยดังกล่าวทำให้ นูริ ต้องตกอยู่ในภาวะเจ้าชายนิทรา ก่อนที่จะฟื้นตัวเริ่มกลับมาสื่อสาร และใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านแล้ว แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีก ทำให้เส้นทางการเป็นนักเตะอาชีพของเขาต้องจบลงอย่างรวดเร็ว

    แม้เส้นทางของลูกหนังของ นูริ จะสิ้นสุดไปแล้วแต่ความผูกพันระหว่างเขากับ ฟาน เดอ เบ็ค ไม่เคยจางหายไป โดยตอนนี้เพื่อนรักของเจ้าตัวกำลังไปได้สวยกับอาชีพพ่อค้าแข้ง เพราะล่าสุดนักเตะจะได้ย้ายไปเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนึ่งในสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังโลก

    ช่วงที่ผ่านมาหลังจากมีข่าวกำลังจะย้ายมาสวมเสื้อ "ปีศาจแดง" ฟาน เดอ เบ็ค ถูกคาดการณ์เกี่ยวกับหมายเลขเสื้อที่เขาจะใส่ให้กับต้นสังกัดใหม่ โดยเสื้อเบอร์ 6 ที่เขาใส่ตอนที่เล่นให้ อาแจ็กซ์ คงหมดสิทธิ์แน่นอน เพราะเป็นเบอร์เสื้อที่ ปอล ป็อกบา ใช้อยู่

    ขณะที่เสื้อเบอร์ 7 ซึ่งเป็นหมายเลขตำนานของสโมสร ก็คงเก็บเอาไว้ให้กับนักเตะที่พวกเขาเฝ้ารอมาตลอดโดยว่ากันว่าน่าจะเป็น เจดอน ซานโซ่ ส่วนเบอร์ 11 ก็ยังว่าง แต่คาดว่าแมนฯ ยูไนเต็ด จะเก็บเอาไว้ให้กับ เมสัน กรีนวู้ด ที่ปัจจุบันสวมหมายเลข 26

    อย่างไรก็ตามทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นการคาดเดากันเองจากสื่อ เพราะจริงๆ แล้ว ฟาน เดอ เบ็ค มีหมายเลขที่อยู่ในใจของเขามาตลอด นั่นก็คือเสื้อหมายเลข "34" ซึ่งหลายคนไม่เข้าใจว่าทำไม ดาวเตะพรสวรรค์สูงวัย 23 ปี ถึงเลือกหมายเลขนี้ แต่ทุกอย่างเฉลยออกมาแล้วว่าเหตุผลสำคัญก็คือเขาต้องการให้เกียรติ นูริ เพื่อนรัก และเป็นการยืนยันว่าความสัมพันธ์ฉันท์มิตรแท้ของพวกเขาไม่เคยจางหายไป

    ฟาน เดอ เบ็ค เปิดใจถึงเหตุผลที่ว่าทำไหมเบอร์ 34 ถึงมีความสำคัญกับเขามากขนาดนี้ "เขา (อับเดลฮัค นูริ) ถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ และเราได้นั่งใกล้กันในห้องแต่งตัวตอนที่อยู่ในเดอ ทูคอมสท์ (อะคาเดมี่อาแจ็กซ์) ผมขอใส่เสื้อเบอร์ 34 เพราะเป็นแชมป์สมัยที่ 34 ซึ่งเราทำได้สำเร็จ"

    "หลังจากที่เขาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ผมยังคงคิดเกี่ยวกับคำพูดของเขา และแน่นอนว่าผมไม่เคยคิดที่จะทิ้งอาแจ็กซ์ จนกระทั่งเราคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ผมต้องการคว้าแชมป์สมัยที่ 34 เราทุกคนเล่นเพื่อ แอพพี (ชื่อเล่นของ นูริ) ผมอยากได้แชมป์ (ลีก ดัตช์) มากๆ"

    "ผมมักจะแวะไปเยี่ยมครอบครัวของเขา และในช่วงปิดฤดูกาลผมอาจจะไปพบกับ แอพพี ด้วยตัวเอง เพื่อปกป้องความรู้สึกของตัวเองผมไม่อยากไปเยี่ยมเขา เพราะเมื่อผมเห็นเขา มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากๆ ผมเสียใจหนักมากถึง 2 สัปดาห์ ผมนอนไม่หลับเลย มันช่างเจ็บปวดและผมรับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ"

    "ผมอยากอยู่กับเขาทุกวัน เพราะผมคิดถึงเขามาก แต่ผมรู้ว่าผมไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าผมอยู่กับเขา ผมก็จะได้คุยกับเขา และได้เห็นรอยยิ้มของเขา ผมรู้ว่านี่เป็นเรื่องยากมากๆ เวลาที่ผมเสียใจผมจะหยุดทุกอย่าง ผมไม่เคยต้องพบกับจิตแพทย์ เพราะผมมีเพื่อนๆ และครอบครัวที่ดูแลผมเป็นอย่างดี พวกเขาจะอยู่เคียงข้าง และฟังผมเมื่อผมต้องการ" ฟาน เดอ เบ็ค กล่าว

     นอกจากนี้ สตาร์แห่งอนาคตชาวดัตช์ ยังยกย่อง นูริ ว่าเป็นนักเตะพรสวรรค์สูง และมีจิตใจงดงาม แต่น่าเสียดายที่ต้องมาพบกับเรื่องไม่คาดฝันทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไป "แอพพี เป็นเด็กที่มีความสุขมาก เขาดีกับทุกๆ คน เป็นนักเตะชั้นยอด และเป็นคนดีมากๆ เมื่อเขาอายุมากขึ้นเขามักจะไปเยี่ยมคุกเพื่อแนะนำให้เด็กวัยรุ่นกลับมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง และจุดประกายโอกาสของพวกเขา"

    "เขามักใช้เวลาอยู่กับผู้คนที่มีอาการป่วย และเด็กพิการ ผมยังจดจำเรื่องเหล่านั้นได้เสมอ ผมคิดว่ามันช่วงเป็นสิ่งที่สวยงามจริงๆ กับเรื่องที่เขาทำ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีกล้องทีวี และช่างภาพอยู่ที่นั่น ตอนที่พี่ชายของผม โรดี้ ป่วย แอพพี มักจะแสดงความเป็นห่วงเป็นใย"

    "เขาดีใจมากๆ ตอนที่ได้พบน้องสาวคนเล็กไปโรงเรียน และไปรับพวกเธอ รวมทั้งซื้อของขวัญให้กับพวกเขา เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวมีความสุข ผมแปลกใจมากๆ ทำไมเรื่องนี้ (อาการป่วย) ถึงต้องเกิดขึ้นกับเขา แน่นอนว่าผมไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ แต่ดูเหมือนว่ามันมักจะเกิดขึ้นกับคนดีๆ แอพพี อยากทำเรื่องที่ดีที่สุดเพื่อทุกๆ คน และเขาก้ไม่สมควรต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกสิ้นเรี่ยวแรง และโกรธมากๆ" ดาวเตะชาวดัตช์ ระบุ

    ความสัมพันธ์และความจริงใจที่ ฟาน เดอ เบ็ค มีให้กับ นูริ มันแสดงให้เห็นว่า "เพื่อนแท้" มีอยู่จริงบนโลกใบนี้

สื่อแฉ!บาร์เซโลน่าควัก12ล้านป.ชดเชยเขี่ย “ซัวเรซ” ทิ้ง

 

สื่อดัง รายงาน บาร์เซโลน่า ต้องเซ็นเช็คจ่ายค่าชดเชยให้ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกจอมเก๋า จำนวน 12 ล้านปอนด์ หากต้องการกำจัดนักเตะออกไปจากทีม
   
"เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน จะต้องจ่ายเงินจำนวน 12 ล้านปอนด์ (ราว 456 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่ายกเลิกสัญญา หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้ามากประสบการณ์ชาวอุรุกวัย จากการเปิดเผยของ โกล สื่อกีฬาชื่อดังระดับโลก

หัวหอกวัย 33 ปี หมดอนาคตในถิ่นคัมป์ นู แน่นอนแล้ว หลังจากที่นักเตะได้รับการแจ้งข่าวผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์เพียงไม่ถึงนาทีกับ โรนัลด์ คูมัน เทรนเนอร์ชาวดัตช์ โดยมีการยืนยันชัดเจนว่า ซัวเรซ ไม่ได้อยู่ในแผนการสร้างทีมของเขาอีกต่อไป

อย่างไรก็ตามการกำจัดนักเตะไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ เพราะ ซัวเรซ ซึ่งซัดไป 21 ประตูจาก 36 เกมให้กับต้นสังกัดเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ยังมีสัญญาอยู่กับ บาร์ซ่า จนถึง 30 มิถุนายน 2021 ฉะนั้นหากต้องการให้ อดีตสตาร์ ลิเวอร์พูล ออกจากทีม พวกเขาต้องจ่ายเงินชดเชย กว่า 12 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว

ทั้งนี้ คูมัน พยายามที่ยกเครื่อง บาร์เซโลน่า ใหม่ โดยหนึ่งในนักเตะที่เขาต้องการกำจัดทิ้งก็คือ ซัวเรซ เพราะถึงจะยิงประตูได้เยอะแต่ด้วยวัย 33 ปีถือว่าเป็นช่วงบั้นปลายชีวิตพ่อค้าแข้ง และหากขายนักเตะได้จะทำให้ทีมประหยัดค่าเหนื่อยที่ต้องจ่ายให้ ซัวเรซ สัปดาห์ละ 400,000 ปอนด์ (ราว 15.2 ล้านบาท) ด้วย

ใครจะไปจ่ายไหว?บาร์ซ่าตั้งค่าตัวเมสซี่หากคิดลา

สื่อแดนกระทิงดุเผย บาร์ซ่า ตั้งค่าตัว ลิโอเนล เมสซี่ เอาไว้แพงมหาศาล เพราะไม่อยากให้เจ้าตัวอำลาถิ่น คัมป์ นู และคงไม่มีทีมไหนกล้าทุ่มแน่
    บอร์ดสโมสร บาร์เซโลน่า ต้องการได้ค่าตัวของ ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ จำนวน 700 ล้านยูโร (ประมาณ 25,900 ล้านบาท) ตามค่าฉีกสัญญาที่ทำไว้ หากเจ้าตัวร้องขอย้ายทีม ตามรายงานจาก มุนโด เดปอร์ติโบ สื่อสเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา

    สื่อแดนกระทิงดุเผยว่า บอร์ด บาร์ซ่า ต้องการได้ค่าตัวในระดับค่าฉีกสัญญาเท่านั้นถึงจะยอมปล่อยออกจากถิ่น คัมป์ นู แม้ดาวเตะวัย 33 ปี เหลือสัญญากับสโมสรอีกเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นก็ตาม เนื่องจากอยากให้กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา อยู่ช่วยสโมสรต่อไป

    จากการตั้งค่าตัวดังกล่าว ทำให้คงไม่มีทีมไหนมีเงินมากพอที่จะยื่นซื้อ เมสซี่ เพราะจำนวนเงินดังกล่าวจะมากกว่าสถิติโลกตอนที่ เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิล ย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อปี 2017  ถึงกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว

    อนาคตของ เมสซี่ เริ่มไม่มีความแน่นอน หลังจากที่เจ้าตัวไม่ค่อยพอใจกับแผนงานของสโมสรที่ไร้จุดหมายหลังพลาดแชมป์ ลา ลีกา และโดน บาเยิร์น มิวนิค ถล่มไปถึง 8-2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้เริ่มมีความคิดที่จะโบกมือลายอดทีมแห่งแคว้นกาตาลุนย่า

    ขณะที่ โรนัลด์ คูมัน เทรนเนอร์คนใหม่ของ บาร์ซ่า ยังคงเชื่อว่า เมสซี่ ต้องการอยู่กับ "เจ้าบุญทุ่ม" และอยากที่จะจบอาชีพพ่อค้าแข้งในถิ่นคัมป์ นู  หลังจากที่ทั้งคู่ได้เปิดใจเคลียร์ทุกๆ ประเด็นแล้ว