เร่เข้ามา!แมนยูปักป้ายราคาขาย9นักเตะส่วนเกิน

เปิดค่าตัว 9 นักเตะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมปล่อยออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในซัมเมอร์นี้ เพื่อระดมทุนไปซื้อแข้งใหม่ต่อจาก ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค

 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ เข้ามาเสริมทัพเป็นรายแรกในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจ่ายค่าตัวให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จำนวน 39 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,599 ล้านบาท)

นอกจากนั้น "ปีศาจแดง" ยังเล็งคว้าเซนเตอร์แบ็กเข้ามาอีกคน โดยที่มองๆ อยู่ในเวลานี้คือ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ของ แอร์เบ ไลป์ซิก กับ คาลิดู คูลิบาลี่ ของ นาโปลี รวมถึงยังอยากได้ปีกขวาและกองหน้าตัวเป้าอีกด้วย

แน่นอนว่า เมื่อมีนักเตะเข้ามาก็ต้องมีคนย้ายออกไป โดยที่อยู่ในข่ายโดนโละมี 9 คน และตั้งราคาเอาไว้ดังนี้

1. เจสซี่ ลินการ์ด – 15 ล้านปอนด์

กองกลางวัย 28 ปี เป็นผลผลิตจากอคาเดมี่ของสโมสร โดยเคยได้รับการจับตามองว่าน่าจะมีอนาคตสดใส แต่สุดท้ายก็เข็นไม่ขึ้น หลังทำผลงานไม่ดี แม้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พยายามให้โอกาสก็ตาม

 ลินการ์ด ได้รับความสนใจจาก นิวคาสเซิ่ล ยูโนเต็ด และ โรม่า โดยที่ "ปีศาจแดง" พร้อมปล่อยถ้าได้ค่าตัว 15 ล้านปอนด์

2. อันเดรส เปเรยร่า – 15 ล้านปอนด์

คู่หูเบอร์ 14-15 คงต้องไปพร้อมกัน หลัง เปเรยร่า ก็เข็นไม่ขึ้นเหมือนกัน แถมการมาของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ ฟาน เดอ เบ็ค ยิ่งทำให้อนาคตของเจ้าตัวมืดมนไปอีก 

ในเวลานี้ เบนฟิก้า และ บาเลนเซีย กำลังให้ความสนใจ เปเรยร่า และค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ก็น่าจะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมปล่อยแล้ว

3. คริส สมอลลิ่ง – 20 ล้านปอนด์

แม้ สมอลลิ่ง จะไปทำผลงานได้ดีในการเล่นให้ โรม่า แบบยืมตัว แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด คงไม่ดึงกลับมา และพร้อมขายขาดด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์

4. ฟิล โจนส์ – 8 ล้านปอนด์

กองหลังวัย 28 ปี ต้องเจอกับซีซั่นที่ยากลำบาก เพราะทำผลงานไม่ดีเวลาที่ได้โอกาสลงสนาม ทำให้คงหมดอนาคตในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แถมบาดเจ็บออดๆ แอดๆ อีกด้วย

โจนส์ ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ไปแค่ 43 เกมตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สนดึงไปร่วมทีม และ "ปีศาจแดง" พร้อมปล่อยให้แค่ 8 ล้านปอนด์เท่านั้น

5. ดีโอโก้ ดาโลต์ – 10 ล้านปอนด์

ดาโลต์ มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอยู่ต่อเนื่องทำให้ไม่ค่อยได้ลงสนาม หลังย้ายมาจาก ปอร์โต้ เมื่อปี 2018 ด้วยค่าตัว 19.8 ล้านปอนด์  

เวลานี้ เอฟเวอร์ตัน สนใจ ดาโลต์ และ "ปีศาจแดง" อาจตัดใจยอมขาดทุนขายให้ในราคาแค่ 10 ล้านปอนด์เท่านั้น

6. เอริก ไบยี่ – 15 ล้านปอนด์

หากไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนล่ะก็ ไบยี่ นับเป็นกองหลังที่สุดยอดและมีความแข็งแกร่งมากสุดคนหนึ่ง หลังย้ายมาจาก บียาร์เรอัล ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว

"ปีศาจแดง" พร้อมขายกองหลังวัย 26 ปี ถ้าได้ค่าตัว 15 ล้านปอนด์ และเคยมีข่าวเสนอไปให้ เอซี มิลาน แต่ "ปีศาจแดง-ดำ" ไม่สนใจ

7. ฆวน มาต้า – 9 ล้านปอนด์

กองกลางสแปนิช วัย 32 ปี ลงเล่นไป 37 นัดในทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ฟอร์มการเล่นผ่านจุดพีคไปแล้ว และความเร็วถดถอยไปเยอะ

มาต้า อาจได้ไปเล่นช่วงปลายชีวิตค้าแข้งที่ตุรกี หลังมีข่าวกับ เฟเนร์บาห์เช่ และ "ปีศาจแดง" ก็พร้อมเปิดทางถ้าได้ค่าตัว 9 ล้านปอนด์

8. มาร์กอส โรโฮ – 7 ล้านปอนด์

โรโฮ วัย 30 ปี โดนส่งไปให้ เอสตูเดียนเตส สโมสรในอาร์เจนตินาบ้านเกิดยืมใช้งานในซีซั่นที่ผ่านมา หลังไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ โซลชา และถ้ามีทีมไหนให้ค่าตัว 7 ล้านปอนด์ก็พร้อมปล่อยแล้ว

9. เซร์คิโอ โรเมโร่ – 7 ล้านปอนด์

นายทวารชาวอาร์เจนไตน์ วัย 33 ปี คงต้องอำลาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตาม โรโฮ เพื่อนร่วมชาติ หลัง ดีน เฮนเดอร์สัน กลับมาแย่งมือ 1 กับ ดาบิด เด เคอา

"ปีศาจแดง" พร้อมเสนอ โรเมโร่ เป็นส่วนหนึ่งในการยื่นซื้อ แจ็ค กรีลิช กองกลาง แอสตัน วิลล่า ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ก็มีข่าวสนใจอยู่เหมือนกัน โดยที่ค่าตัวน่าจะอยู่ที่ราว 7 ล้านปอนด์

เรอัลจ้องลูกากู,คูลิบาลี่จ่อซบซิตี้!อัพเดตข่าวเด่นตลาดนักเตะลีกยุโรป

ตอนนี้ คาลิดู คูลิบาลี่ เซนเตอร์แบ็กร่างใหญ่ นาโปลี ดูเหมือนจ่อลงเอยกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เต็มที ขณะที่ เชลซี ยังคงเดินหน้าลุยต่อกับการไล่ล่าตัว ไค ฮาแวร์ตซ์ ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีข่าวน่าสนใจมาอัพเดตเพียบ เช่นเดียวกับ บาร์เซโลน่า ที่เพิ่งได้กุนซือคนใหม่ แต่จะมีข่าวอะไรบ้างนั้น เรามาอัพเดตความเคลื่อนไหวในตลาดกันได้เลย 

    – (Official) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เซ็นสัญญายืมตัว สก็อตต์ คาร์สัน ผู้รักษาประตูจอมเก๋าของ ดาร์บี้ เค้าน์ตี้ มาใช้งานต่อในฤดูกาล 2020/21 ถึงแม้ฤดูกาล 2019/20 ที่ผ่านมา อดีตนายด่าน ลิเวอร์พูล วัย 34 ปี ไม่ได้ลงเล่นให้ "เรือใบสีฟ้า" แม้แต่นัดเดียวก็ตาม

    – (Official) เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ประกาศคว้าตัว อารอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูเลือดผู้ดี กลับมาจาก บอร์นมัธ เรียบร้อย พร้อมเซ็นสัญญาร่วมงานกันยาว 4 ปี เผยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 738 ล้านบาท)

    – (Official) โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เซ็นสัญญายืมตัว เรเนียร์ เชซุส กองกลางดาวรุ่งเลือดแซมบ้าของ เรอัล มาดริด มาใช้งานเป็นเวลา 2 ฤดูกาล โดย ดาวเตะวัย 18 ปี เพิ่งย้ายจาก ฟลาแม็งโก้ มาร่วมทัพ "ราชันชุดขาว" ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1,110 ล้านบาท) เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา

   – (Official) โตริโน่ คว้าตัว ริคาร์โด้ โรดริเกซ แบ็กซ้ายเลือดสวิส มาจาก เอซี มิลาน ด้วยค่าตัว 3 ล้านยูโร (ประมาณ 111 ล้านบาท) โดยเซ็นสัญญาร่วมงานกันถึงปี 2024

    – การเจรจาระหว่าง เชลซี และ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เกี่ยวกับดีลของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ยังคงดำเนินต่อไป ถึงแม้ "ห้างขายยา" ยังคงมุ่งมั่นที่จะขายในราคา 90 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,690 ล้านบาท) แต่ "สิงห์บลูส์" พร้อมจ่าย 70 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,870 ล้านบาท) ก็ตาม (Fabrizio Romano)

   – ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ให้เวลา เชลซี แค่ถึงวันที่ 28 สิงหาคม ในการเร่งปิดดีล ฮาแวร์ตซ์ (Daily Mail)

    – นอกจากนี้ "สิงห์บลูส์" ยังพิจารณาที่จะคว้าตัว ติอาโก้ ซิลวา เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาเสริมแนวรับแบบฟรีๆ โดย ดาวเตะเลือดแซมบ้าวัย 35 ปี กำลังจะหมดสัญญากับ เปแอสเช หลังจบซีซั่นนี้ (Telegraph)

    – เชลซี และ แอตเลติโก มาดริด ต่างมีความสนใจที่จะเซ็นสัญญาคว้าตัว เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ ปีกดาวดัง ยูเวนตุส (Calciomercato )

    – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมปิดดีลคว้าตัว มาร์ค ฆูราโด้ ฟูลแบ็กเลือดกระทิงดุวัย 16 ปี ของ บาร์เซโลน่า โดย ฆูราโด้ ตกลงที่จะย้ายมายังถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตั้งแต่ช่วงต้นซัมเมอร์แล้ว หลังปฏิเสธข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่จาก บาร์ซ่า (Goal)

   – นอกจากนี้ "ปีศาจแดง" ยังหวังรวบสองแข้งเลือดแซมบ้าของ ยูเวนตุส อย่าง ดั๊กลาส คอสต้า และ อเล็กซ์ ซานโดร โดยทั้งสองน่าจะมีค่าตัวรวมกันอยู่ที่ 72 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,952 ล้านบาท) (Calcio Mercato)

 – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มอง เดวิด บรู๊คส์ ปีกจอมพลิ้ว บอร์นมัธ เป็นอีกหนึ่งทางเลือก หลังประสบความยากลำบากในการล่าตัว เจดอน ซานโช ปีกดาวดัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Sport Witness)

    – เซร์คิโอ โรเมโร่ ผู้รักษาประตูสำรอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังได้รับความสนใจจากทั้ง เชลซี, เอฟเวอร์ตัน และ ลีดส์ ยูไนเต็ด (ESPN)

    – กระนั้น "ปีศาจแดง" อาจจะใช้ โรเมโร่ เป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอขอซื้อตัว แจ็ค กรีลิช กองกลางจอมพลิ้ว แอสตัน วิลล่า (Daily Mail)

    – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่อได้ตัว คาลิดู คูลิบาลี่ เซนเตอร์แบ็กร่างใหญ่ นาโปลี มาร่วมก๊วน หลังอัพเกรดข้อเสนอขึ้นเป็น 70 ล้านยูโร (ประมาณ 2,590 ล้านบาท) บวกโบนัสอีก 5-6 ล้านยูโร (ประมาณ 185-222 ล้านบาท) ซึ่งคาดว่า "อัซซูร์ร่า" จะเล่นด้วย เนื่องจากกำลังต้องการเงินไปเร่งปิดดีลคว้าตัว กาเบรียล มากัลเญส ปราการหลังเนื้อหอม ลีลล์ ที่พวกเขากำลังยื้อแย่งกับ อาร์เซน่อล (Corriere dello Sport)

    – ลิเวอร์พูล พร้อมพิจารณาขาย มาร์โค กรูยิช กองกลางดาวรุ่งเลือดเซิร์บ และ แฮร์รี่ วิลสัน ปีกทีมชาติเวลส์ ในช่วงซัมเมอร์นี้ (Mirror)

    – ท็อแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อยากได้ ริอาน บรูว์สเตอร์ หัวหอกดาวรุ่ง ลิเวอร์พูล มาใช้งานแบบสัญญายืมตัวในซีซั่นหน้า (Football Insider)

    – ขณะที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม "ไก่เดือยทอง" มีความสนใจที่จะคว้าตัว แกเร็ธ เบล ปีกจรวด เรอัล มาดริด กลับมาร่วมทีม หลังเห็น สตาร์ทีมชาติเวลส์วัย 31 ปี กลายเป็นแข้งส่วนเกินในถิ่น ซานติอาโก เบร์นาเบว (Cuatro)

  – เซาธ์แฮมป์ตัน กำลังเจรจาอยู่กับ ชาลเก้ 04 ถึงเรื่องขอซื้อตัว เวสตัน แม็คเคนนี่ กองกลางดาวรุ่งชาวอเมริกัน มาร่วมทีมในราคา 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 820 ล้านบาท) (Sky Sports)

    – วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ยินดีขาย อดาม่า ตราโอเร่ ปีกจอมพลัง ในช่วงซัมเมอร์นี้ หากได้รับข้อเสนอที่โดนใจ ถึงแม้นักเตะเหลือสัญญาค้าแข้งในถิ่น โมลินิวซ์ อีกถึง 3 ปีก็ตาม 

   – ฟูแล่ม ทำเซอร์ไพรส์ เมื่อมีการติดต่อทาบทามไปยัง  บาร์เซโลน่า เพื่อสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการเซ็นสัญญาคว้าตัว เคราร์ด ปิเก้ เซนเตอร์แบ็กดาวดังชาวสแปนิช มาร่วมทีม (Libero)

   – โรนัลด์ คูมัน เฮดโค้ชคนใหม่ของ บาร์เซโลน่า ได้เล็ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค กองกลาง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, เมมฟิส เดอปาย กองหน้า โอลิมปิก ลียง และ ไมเคิ่ล คีน กองหลัง เอฟเวอร์ตัน เป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ สำหรับการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้ (Ok Diario)

    – ขณะที่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธาน บาร์เซโลน่า คอนเฟิร์ม ซัมเมอร์นี้สโมสรพร้อมพิจารณาปล่อยนักเตะทุกคน ยกเว้น ลิโอเนล เมสซี่, อุสมาน เดมเบเล่, อ็องตวน กรีซมันน์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, เนลซอน เซเมโด้ และ มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น (Fabrizio Romano)

    – อย่างไรก็ตาม อนาคตของ ลิโอเนล เมสซี่ ในถิ่น คัมป นู ยังคงไม่มีความแน่นอน ถึงแม้ บาร์เซโลน่า เพิ่งแต่งตั้ง โรนัลด์ คูมัน มาคุมทัพ (Marca)

    – เรอัล มาดริด ได้มอง โรเมลู ลูกากู หัวหอกร่างยักษ์ อินเตอร์ มิลาน เป็นอีกหนึ่งทางเลือก นอกเหนือจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) และ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์) ในฐานะตัวแทนระยะยาวของ คาริม เบนเซเม่า กองหน้าตัวเก่งวัย 32 ปี  (Le 10 Sport)

    – อาแอส โรม่า กำลังจะได้ตัว อาร์คาดิอุซ มิลิค หัวหอกเลือดโปลของ นาโปลี มาร่วมทีมในราคา 15 ล้านยูโร (ประมาณ 555 ล้านบาท) โดยดีลนี้ทีม "จัลโล่รอสซี่" จะส่ง เจงกิส อุนเดอร์ ปีกทีมชาติตุรกี ให้เป็นของแถมด้วย (Calcio Mercato)

   – เอซี มิลาน ยังคงอยู่ในช่วงการเจรจากับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถึงเรื่องขอซื้อตัว แซร์จ ออริเย่ร์ ฟูลแบ็กชาวไอวอรี่โคสต์ ทว่าพวกเขาไม่พร้อมที่จะจ่ายค่าตัว 23 ล้านปอนด์ (ประมาณ 943 ล้านบาท) ตามที่ "ไก่เดือยทอง" เรียกร้อง (Calcio Mercato)

ใครสนยื่นมา! ‘สเตอร์ริดจ์’รับอยากกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก

อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษยอมรับว่าอยากกลับมาเล่นในลีกประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง

ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยอมรับว่าอยากกลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง หลังเป็นนักเตะไร้สังกัดอยู่ในเวลานี้

ดาวยิงวัย 31 ปี กลายเป็นแข้งไร้สังกัดหลังถูก เอฟเอ แบนจากวงการฟุตบอลเป็นระยะเวลา 4 เดือน พร้อมทั้งปรับเงินอีก 150,000 ปอนด์ จากการทำผิดกฎเกี่ยวกับการพนันฟุตบอล จนต้องยกเลิกสัญญากับ แทร็บซอนสปอร์ ทีมในตุรกี ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าอยากกลับไปเล่นในลีกสูงสุดประเทศบ้านเกิดอีกครั้งถ้ามีโอกาส

"มีตัวเลือกจากทั่วโลก แต่ผมเป็นนักเตะอังกฤษและผมรักที่จะเล่นในอังกฤษอยู่เสมอ" สเตอร์ริดจ์ กล่าว

"ผมเชื่อว่าตัวเองยังมีหลายสิ่งที่มอให้พรีเมียร์ลีกได้ และผมขอบอกว่านี่เป็นตัวเลือกแรกของผม ผมรู้สึกว่ายังทำงานของตัวเองไม่เสร็จ ดังนั้นผมอยากกลับไปเล่นที่นั่น"

เชลซีพึ่งปาฏิหาริย์! “ชิรูด์” พร้อมล่า,บาเยิร์นลุ้น “เลวานฯ” อัดซ้ำ รอบ16ทีม ชปล.

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี อาจต้องพึ่งปาฏิหาริย์หลังนัดแรกแพ้มายับเยินโดยเตรียมส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงล่าตาข่ายเกมบุกถิ่น "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2) วันเสาร์ที่ 8 ส.ค. ศกนี้  (เวลา : 02.00 น.)

ปรีวิว ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2)
วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2563 (เวลา : 02.00 น.)
บาเยิร์น มิวนิค   –   เชลซี
(ผลนัดแรก บาเยิร์น มิวนิค ชนะ 3-0 )

 

สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า

    ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค เทรนเนอร์บาเยิร์น มิวนิค พาทีมบุกไปถล่มเชลซีตุนไว้ก่อนถึง 3-0 ในนัดแรก ก่อนเตรียมความพร้อมในเกมนี้ด้วยการเบียดชนะโอลิมปิก มาร์กเซย 1-0 ในเกมลับแข้งล่าสุด 
   
    ฟลิค หมดสิทธิ์ส่ง คิงส์เล่ย์ โกมัน ปีกทีมชาติฝรั่งเศส ลงเล่นนัดเปิดบ้านปะทะเชลซี ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคมนี้

    สำหรับโกมัน ปีกวัย 24 ปี ลงเล่นเกมนี้ไม่ได้ เนื่องจากเขาบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ทำให้ไม่ได้ลงสนามฝึกซ้อมเมื่อวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม ทำให้เสือใต้น่าจะส่ง อิวาน เปริซิช ลงเล่นแทน

    ขณะที่ เบนฌาแม็ง ปาวาร์ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส วัย 24 ปี บาดเจ็บข้อเท้า ลงเล่นไม่ได้เช่นเดียวกัน

    ด้าน โยชัว คิมมิช และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า 2 แข้งสำคัญต้องระวังตัว เพราะถ้าโดนจดชื่อเพิ่มก็จะโดนแบนในรอบต่อไปทันที

    ส่วนแกนหลักขาประจำรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อบาลา, เลออน โกเร็ทซ์ก้า, โธมัส มุลเลอร์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยังพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม 

    แฟร้งค์ แลมพาร์ด เทรนเนอร์เชลซี พาทีมแพ้บาเยิร์น มิวนิคคารัง 0-3 ในนัดแรก ก่อนแพ้อาร์เซน่อล 1-2 ในนัดชิงเอฟเอ คัพ เป็นการแพ้นัดที่ 2 ในรอบ 5 เกม

    สภาพทีมเกมนี้ แลมพ์สเจอปัญหาเพียบเลย เมื่อจะไม่มีทั้ง มาร์กอส อลอนโซ่ และ จอร์จินโญ่ ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, คริสเตียน พูลิซิช และ เปโดร โรดริเกซ ที่เดี้ยงเพิ่มมาจากเกมล่าสุด เช่นเดียวกับ รูเบน ลอฟตัส-ชีค และ บิลลี่ กิลมอร์ ที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้ว

    ส่วน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แม้จะกลับมามีชื่อสำรองแล้ว แต่ก็ยังต้องรอทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับ วิลเลี่ยน ที่ไม่สมบูรณ์

    ตำแหน่งคนเฝ้าเสายังน่าสนใจเหมือนเดิม วิลลี่ กาบาเยโร่ ประตูอาร์เจนไตน์ตัวเก๋า แม้จะเป็นมือ 2 แต่ก็อาจได้โอกาสต่อเนื่องอีกเกม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

    บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ – โยชัว คิมมิช, เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อบาลา, อัลฟงโซ่ เดวิส – ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เลออน โกเร็ทซ์ก้า – แซร์จ นาร์บี้, โธมัส มุลเลอร์, อิวาน เปริซิช – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 
   
    เชลซี (3-4-2-1) : วิลลี่ กาบาเยโร่ – อันโตนิโอ รือดิเกอร์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, คูร์ท ซูม่า – รีซ เจมส์, มาเตโอ โควาซิช, รอสส์ บาร์คลี่ย์, เอเมอร์สัน พัลไมรี่ – เมสัน เมาน์ท, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์  

    ผู้ตัดสิน : คูเน็ย์ต ชาคีร์ (ตุรกี)

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด
วัน/เดือน/ปี    รายการ    ผลการแข่งขัน
26/02/20    ชปล.เชลซี0-3บาเยิร์น มิวนิค
25/07/17    ไอซีซีเชลซี2-3บาเยิร์น มิวนิค
31/08/13    ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ บาเยิร์น มิวนิค 2-2 เชลซี
20/05/12    ชปล.บาเยิร์น มิวนิค 1-1 เชลซี
12/04/05    ชปล.บาเยิร์น มิวนิค3-2เชลซี

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
บาเยิร์น มิวนิค
31/07/20 ชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย 1-0 (สนามกลาง) กระชับมิตร
05/07/20 ชนะ เลเวอร์คูเซ่น 4-2 (สนามกลาง) เดเอฟเบ โพคาล
27/06/20 ชนะ โวล์ฟสบวร์ก 4-0 (เยือน) บุนเดสลีกา
20/06/20 ชนะ ไฟร์บวร์ก 3-1 (เหย้า) บุนเดสลีกา
17/06/20 ชนะ เบรเมน 1-0 (เยือน) บุนเดสลีกา

เชลซี
01/08/20 แพ้ อาร์เซน่อล 1-2 (สนามกลาง) เอฟเอ คัพ
26/07/20 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
22/07/20 แพ้ ลิเวอร์พูล 3-5 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
19/07/20 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 (สนามกลาง) เอฟเอ คัพ
14/07/20 ชนะ นอริช ซิตี้ 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

โอซิลแจงสาเหตุเมินนโยบายหั่นค่าเหนื่อยช่วยทีม

เมซุต โอซิล มิดฟิลด์ อาร์เซน่อล ระบุ สาเหตุที่เคยปฏิเสธนโยบายการหั่นค่าเหนื่อยของสโมสรเป็นเพราะตอนนั้นไม่ได้รับรายละเอียดในระดับที่เหมาะสมว่าทำไมถึงควรจะต้องทำอย่างนั้น พร้อมบอกว่าที่จริงมีคนอื่นที่ทำเหมือนตน แต่กลับกลายเป็นว่ามีเพียงตนที่โดนชาวบ้านชาวช่องตำหนิอย่างหนัก

    เมซุต โอซิล กองกลาง อาร์เซน่อล สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่าสาเหตุที่ตนไม่ยอมรับมาตรการเลื่อนจ่ายค่าเหนื่อย หรือการหั่นค่าเหนื่อยของทีม เป็นเพราะตอนนั้นต้นสังกัดไม่ได้ให้รายละเอียดกับตนมากพอ จนตนมองว่ามันไม่เหมาะสมที่จะยอมรับมาตรการนั้น

    การระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาทำให้หลายสโมสรทั่วโลกได้รับผลกระทบทางการเงินอย่างมาก จนทำให้บางทีมเลือกใช้มาตรการเลื่อนการจ่ายค่าเหนื่อย หรือก็คือการจ่ายค่าเหนื่อยน้อยกว่าปกติในตอนแรกเพื่อเอาส่วนที่โดนหักไปสมทบกับค่าเหนื่อยในอนาคต ขณะที่บางสโมสรใช้มาตรการหักค่าเหนื่อยแบบตรงๆ ไปเลย

   ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาบอร์ดบริหารของ อาร์เซน่อล ก็เคยเลือกใช้มาตรการที่จะจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะน้อยลงเหมือนกัน โดยบอกว่าจำเป็นต้องทำแบบนั้นเพื่อทำให้สโมสรอยู่รอด และเอาไปจ่ายเงินให้เหล่าสตาฟฟ์ได้ ซึ่งตอนนั้นแทบทุกคนยอมรับมาตรการดังกล่าว แต่ โอซิล กับนักเตะ "ไอ้ปืนใหญ่" อีก 2 คนปฏิเสธมาตรการนั้น ซึ่งมันก็ทำให้ โอซิล โดนตำหนิอย่างหนักตลอดช่วงที่ผ่านมาว่าเป็นคนที่เห็นแก่ตัวสุดๆ

    โอซิล ให้สัมภาษณ์กับ ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชื่อดังว่า "ในฐานะนักเตะแล้วนั้นเราต่างก็อยากมีส่วนช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่เราต้องการข้อมูลมากกว่านี้ และมีหลายเรื่องที่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ทุกคนโอเคกับการเลื่อนจ่ายค่าเหนื่อย ทั้งที่ตอนนั้นมันมีความไม่แน่นอนหลายอย่าง"

    "ส่วนตัวแล้วผมโอเคที่จะยอมโดนเลื่อนการจ่ายค่าเหนื่อยในระดับที่เสียเงินเยอะกว่าคนอื่น และไม่มีปัญหาเลยด้วยหากจะโดนหั่นค่าเหนื่อยหากมันจำเป็นต้องทำถึงขั้นนั้นเมื่อถึงเวลาที่เกิดความชัดเจนมากขึ้นทั้งในด้านฟุตบอลและการเงิน แต่เราโดนบีบให้รีบทำการตัดสินใจทั้งที่ไม่มีการหารือกันที่ดี ทุกคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นน่ะมีสิทธิ์ที่จะได้รู้ทุกเรื่อง, ได้เข้าใจว่าทำไมมันถึงเกิดสถานการณ์แบบนั้น และได้เข้าใจว่าเงินที่โดนหักไปน่ะจะไปอยู่ที่ไหน แต่เราไม่ได้รับรายละเอียดมากพอ เราเหมือนมีหน้าที่แค่ทำการตัดสินใจเท่านั้น ซึ่งการทำอย่างนั้นถือว่าเร็วเกินไปสำหรับเรื่องที่ถือว่ามีความสำคัญมากๆ และมันก็มีแรงกดดันอย่างหนักด้วย"

    "สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดานักเตะที่อายุน้อย ผมก็เลยปฏิเสธไป ผมมีลูกอยู่ที่บ้าน, มีครอบครัวที่ต้องดูแลทั้งที่ ตุรกี และ เยอรมนี แถมผมยังมีองค์กรการกุศลกับโปรเจกต์ใหม่ที่เราทำขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือคนในกรุงลอนดอนด้วย โปรเจกต์ที่ว่ามันเกิดขึ้นจากใจจริงของเรา ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อเป็นการโปรโมตอะไรทั้งนั้น"

    "คนที่รู้จักผมดีย่อมรู้ดีว่าที่จริงแล้วผมเป็นคนใจกว้างมากแค่ไหน และเท่าที่ผมรู้มาน่ะผมไม่ใช่นักเตะเพียงคนเดียวด้วยที่ไม่ยอมรับมาตรการหักค่าเหนื่อย แต่กลับกลายเป็นว่ามีแค่ชื่อของผมเพียงคนเดียวที่โผล่ตามหน้าสื่อ ผมเดาว่าที่เป็นอย่างนั้นคงเป็นเพราะผมมีประเด็นติดตัวล่ะมั้ง มันเป็นเวลานาน 2 ปีแล้วที่คนพยายามทำลายผม, พยายามทำให้ผมไม่มีความสุข, พยายามสร้างความปลุกปั้นด้วยความหวังว่าจะทำให้แฟนบอลหันมาเกลียดผม รวมถึงสร้างเรื่องโกหกขึ้นมา"

    "การตัดสินใจในครั้งนั้นอาจจะมีส่วนทำให้ผมได้รับโอกาสลงเล่นน้อยก็ได้ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมไม่กลัวที่จะยืนหยัดสู้เพื่อสิ่งที่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และพอคุณได้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้แล้วน่ะ (หมายถึงการที่ อาร์เซน่อล ปลดพนักงาน 55 คน ทั้งที่ใช้มาตรการหั่นค่าเหนื่อยนักเตะไปแล้ว) บางทีสิ่งที่ผมทำก็อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็ได้"

เลวานยิง2จ่าย2! บาเยิร์นย้ำชัยถล่มเชลซี ทะลุชนบาร์ซ่า8ทีมชปล.

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ งัดฟอร์ดสุดยอดหลังยิงสอง-จ่ายสอง พา "เสือใต้" ไล่ถล่ม เชลซี 4-1 สกอร์รวมสองนัดผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยประตูรวม 7-1 โดยจะเข้าไปพบกับ บาร์เซโลน่า ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา

สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า 

    ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง บาเยิร์น มิวนิค กลับมาเล่นในบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี โดยเกมแรก "เสือใต้" โชว์ฟอร์มดุบุกไปถล่ม "สิงห์บลูส์" 3-0 ทำให้มีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ

     ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค พาเสือใต้ไร้พ่ายตั้งแต่ขึ้นปี 2020 แมตช์ทางการล่าสุดคือ ไล่บดเอาชนะ เลเวอร์คูเซ่น 4-2 คว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เกมนี้ไร้ปัญหาในการจัดทัพจัดชุดใหญ่ส่ง  แซร์จ นาร์บี้, โธมัส มุลเลอร์ และอิวาน เปริซิช สนับสนุน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยืนเป็นหน้าเป้า

    ส่วน แฟร้งค์ แลมพาร์ด นายใหญ่ของเชลซี แพ้เกมแรกมาขาดลอยทำให้โอกาสเข้ารอบยากเต็มที สภาพทีมก็ไม่ดีเท่าไหร่ ฟอร์มล่าสุดพ่าย อาร์เซน่อล 1-2 ในนัดชิงฯเอฟเอ คัพ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แถมต้องมาปวดหัวกับอาการเจ็บของผู้เล่นอีก โดยสามแนวรุกวันนี้จัด เมสัน เมาน์ท, แทมมี่ อบราฮัม และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย

    ออกสตาร์ทมาได้แค่ 8 นาที โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หลุดเข้าไปแตะบอลหลบ วิลลี่ กาบาเยโร่ ได้แล้ว แม้ผู้ตัดสินจะเป่าเป็นล้ำหน้าไปก่อน แต่หลังจากเช็กจาก VAR แล้วไม่เป็นลูกล้ำหน้า ทำให้กลับคำตัดสินชี้เป็นจุดโทษให้ "เสือใต้" พร้อมแจกใบเหลืองให้ กาบาเยโร่ ก่อนที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จะซัดเข้าไปไม่พลาดให้ บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 และเป็นประตูที่ 12 นำดาวซัลโวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สกอร์รวมนำ เชลซี ขาดลอย 4-0

    นาที 18 "เสือใต้" ได้ลุ้นอีกคราวนี้ แซร์จ นาร์บี้ ครอสมาให้ เลวานดอฟสกี้ ดีดเร็วด้วยขวาบอลพุ่งถากเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย

    กระนั้น นาที 24 สิงห์บลูส์ มาเล่นกันพลาดหลัง  มาเตโอ โควาซิช ทำเสียบอลกลางสนาม ก่อนบอลมาถึง เลวานดอฟสกี้ ดึงจังหวะแล้วไหลนิ่มๆให้ อิวาน เปริซิช แปด้วยขวาเสาแรกผ่านมือ วิลลี่ กาบาเยโร่ เข้าไป ให้ "เสือใต้" นำห่าง 2-0

    นาที 28 เชลซี มาชวดประตูตีไข่แตกอย่างน่าเสียดายหลัง แทมมี่ อบราฮัม จ่ายบอลต่อให้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ปั่นบอลอย่างสุดสวยเบียดเสาเข้าไปแล้ว แต่ VAR ยืนยันไม่ให้ประตูเนื่องจาก แทมมี่ กลับมาจากตำแหน่งล้ำหน้า

    ท้ายครึ่งแรก นาที 44 เชลซี มาพังประตูตีไข่แตกสำเร็จ หลัง เอเมอร์สัน ครอสบอลเข้ามาในกรอบ 6 หลา มานูเอล นอยเออร์ ออกมาตะครุบบอลแต่พลาดทำหลุดมือไปเข้าทาง แทมมี่ อบราฮัม ที่ยืนโล่งๆตามซ้ำด้วยขวาเข้าไปให้ เชลซี ไล่มาเป็น 1-2

    จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำ เชลซี 2-1 สกอร์รวมสองนัด "เสือใต้" นำห่าง 5-1

    กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 49 เอเมอร์สัน จ่ายบอลขึ้นหน้าให้ เมสัน เมาน์ท กระชากขึ้นทางซ้ายเข้าไปในกรอบก่อนจะกดด้วยซ้ายมุมแคบไปเข้ามือ มานูเอล นอยเออร์

    นาที 63 เจ้าบ้านเปลี่ยนสองคนรวดส่ง นิคลาส ซือเล่ ลงไปเล่นแทน เยโรม บัวเต็ง ที่มีอาการเจ็บ และส่ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงไปเล่นแทน อิวาน เปริซิช

    อีก 4 นาทีต่อมา บาเยิร์น เกือบได้เม็ดที่สามหลัง โยชัว คิมมิช เปิดเตะมุมมาให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า โขกบอลโดนสกัดมาเข้าทาง ดาวิด อลาบา อัดด้วยขวาแถวสองเข้าไปแต่บอลพุ่งไปเข้ามือ กาบาเยโร่

    นาที 76 "เสือใต้" มาได้ประตูที่สามนำห่าง 3-1 บอลออกซ้ายไปให้ เลวานดอฟสกี้ ก่อนที่หัวหอกชาวโปแลนด์จะเปิดมากลางประตูให้ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมากระโดดแปด้วยขวาเน้นๆเข้าไปให้เจ้าบ้านสกอร์รวมนำ สิงห์บลูส์ 6-1
   
    เท่านั้นไม่พอ นาที 84 มาได้ประตูที่สี่นำโด่ง 4-1 คราวนี้ อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า ครอสจาดด้านขวามาให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โขกเข้าไปเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ และประตูที่ 13 นำดาวซัลโวรายการนี้

    จบการแข่งขัน บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี 4-1 รวมผลสองนัด "เสือใต้" เอาชนะขาดลอย 7-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ประเทศโปรตุเกสที่จะจัดแบบ "มินิทัวร์นาเมนท์" โดยจะพบกับ บาร์เซโลน่า ในวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคมนี้

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ – โยชัว คิมมิช, เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อบาลา, อัลฟงโซ่ เดวิส – ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เลออน โกเร็ทซ์ก้า – แซร์จ นาร์บี้, โธมัส มุลเลอร์, อิวาน เปริซิช – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 
   
        เชลซี (4-3-3) : วิลลี่ กาบาเยโร่ – รีซ เจมส์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, คูร์ท ซูม่า, เอเมอร์สัน พัลไมรี่ – มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, รอสส์ บาร์คลี่ย์ – เมสัน เมาน์ท, แทมมี่ อบราฮัม, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย

        ผู้ตัดสิน : คูเน็ย์ต ชาคีร์ (ตุรกี)

ตูรานชี้สาเหตุที่ทำให้เมสซี่เหนือกว่าโรนัลโด้

อาร์ด้า ตูราน มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงของ กาลาตาซาราย ระบุ ถ้าถามตนแล้วนั้นตนมองว่า ลิโอเนล เมสซี่ เก่งกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพราะว่า เมสซี่ ทำได้ดีทุกด้าน ส่วน โรนัลโด้ เด่นแค่การทำประตู พร้อมชี้ นอกจากกลุ่มที่สนิทกับ โรนัลโด้ แล้วนั้น ทุกคนต่างก็เห็นพ้องกับตนทั้งนั้น
    อาร์ด้า ตูราน กองกลางจอมเก๋าของ กาลาตาซาราย สโมสรในศึกซูเปอร์ลีก ตุรกี กล่าวว่าสิ่งที่ทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ เหนือกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือการที่ เมสซี่ ทำได้ยอดเยี่ยมในทุกด้าน ขณะที่ โรนัลโด้ มีจุดเด่นแค่การทำประตูเท่านั้น

    เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ต่างก็ได้รับการยกย่องว่าเป็น 2 นักเตะที่เก่งที่สุดของยุคนี้ หลังจากพวกเขาต่างก็ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งมันก็ทำให้หลายคนมักจะถกเถียงกันด้วยว่าระหว่างทั้งคู่ใครเป็นนักเตะที่เก่งกว่ากัน

    ตูราน ซึ่งเคยร่วมงานกับ เมสซี่ ที่ บาร์เซโลน่า เผยว่า "เมสซี่ อยู่ในทุกจังหวะของการเล่นฟุตบอล เขาสามารถบงการเกมได้จากทุกมุม ผมไม่คิดที่จะพูดอะไรแย่ๆ เกี่ยวกับ โรนัลโด้ หรอก แต่เขาเป็นนักเตะที่เด่นด้านการทำประตูเท่านั้น แม้ว่าเขาจะทำด้านนั้นได้เด่นกว่าคนอื่นๆ เป็นพิเศษก็ตามน่ะนะ ในทางกลับกัน เมสซี่ ทำได้ทุกอย่าง เขาสามารถทำสิ่งที่คุณคาดไม่ถึงได้ด้วยซ้ำ ความฉลาดในการเล่นและวิสัยทัศน์ในการเล่นของเขาน่ะมันต่างจากคนอื่นมาก"

    "ไม่ว่าผมจะไปคุยกับใครก็ตามเกี่ยวกับเรื่องนี้น่ะ ทุกคนก็เห็นตรงกันกับผมทั้งนั้น นอกจากคนที่ใกล้ชิดกับ โรนัลโด้ และเพื่อนร่วมทีมของเขาที่จะตอบแบบรักษาน้ำใจว่า โรนัลโด้ เก่งกว่าล่ะนะ โรนัลโด้ เป็นเพื่อนของผม และมันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผมที่จะไปกังขาถึงคุณภาพของเขา แต่ผมคิดว่า เมสซี่ เป็นนักเตะที่เก่งกว่าก็เท่านั้น"

แมนยูสบายๆ!5ประเด็นเด็ดฟุตบอลถ้วยยุโรปคัมแบ็ก

เปิด 5 ประเด็นน่าสนใจฟุตบอลถ้วยยุโรปจะกลับมาเริ่มเตะกันอีกครั้งตั้งแต่วันพุธนี้ อาทิ เชลซี คงต้องพึ่งปาฎิหาริย์ในการผ่านเข้ารอบ ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด สบายๆ อาจส่งเด็กลงเล่นหลังถล่มคู่แข่งในนัดแรก
    ฟุตบอลถ้วยยุโรปฤดูกาล 2019/20 ทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโรปา ลีก เตรียมจะกลับมาดวลแข้งกันอีกครั้งตั้งแต่สัปดาห์นี้ หลังต้องหยุดไปนานถึง 5 เดือน เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

    รายการ ยูโรปา ลีก จะเริ่มกลับมาเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง วันพุธที่ 5 สิงหาคมนี้ โดยเล่นที่บ้านของอีกฝ่ายตามโปรแกรมเดิม ยกเว้น 2 คู่ที่ยังไม่ได้เตะนัดแรก คือ อินเตอร์ มิลาน พบ เคตาเฟ่ และ เซบีย่า พบ โรม่า จะไปเตะแบบนัดเดียวจบที่ประเทศเยอรมนี แล้วต่อด้วยรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศ

    ขณะที่ถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ยังเตะไม่จบอีก 4 คู่ (ยูเวนตุส พบ โอลิมปิก ลียง นัดแรก 0-1, แมนฯ ซิตี้ พบ เรอัล มาดริด นัดแรก 2-1, บาเยิร์น มิวนิค พบ เชลซี นัดแรก 3-0 และ บาร์เซโลน่า พบ นาโปลี นัดแรก 1-1) นั้น จะเล่นนัดสองที่สนามของทีมเจ้าบ้านตามโปรแกรมเดิมในวันที่ 7-8 ส.ค. นี้ ก่อนเข้าไปเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่โปรตุเกส

    แน่นอนว่า การแข่งขันในปีนี้ไม่เหมือนเดิมเพราะตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้าย จะเล่นเหมือนบอลทัวร์นาเมนต์นัดเดียวจบ และนี่คือ 5 ประเด็นน่าสนใจต้องจับตามองให้ดี

    1. เชลซี ต้องการปาฎิหาริย์

     เชลซี จบฤดูกาล พรีเมียร์ลีก ด้วยการคว้าอันดับ 4 ส่งผลให้คว้าโควตาไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า และได้รองแชมป์ เอฟเอ คัพ หลังแพ้ อาร์เซน่อล ในนัดชิงชนะเลิศ

    ขณะที่ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ เชลซี ยังอยู่ในเส้นทาง แต่คงต้องพึ่งปาฎิหาริย์ เพราะในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ แพ้ บาเยิร์น ถึง 0-3

    แฟร้งค์ แลมพาร์ด มีโปรแกรมพา "สิงห์บลูส์" ไปเยือนถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า วันเสาร์ที่ 8 ส.ค.นี้ และต้องเอาชนะ 3 ลูกขึ้นไปถึงจะมีโอกาสเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งถือเป็นงานหนักสุดๆ เพราะ "เสือใต้" ไม่แพ้ใครมาตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. ปีที่ผ่านมา

    2. เซเตียน จะอยู่หรือไป

    สื่อสเปน รายงานว่า กีเก้ เซเตียน จะได้อยู่คุม บาร์เซโลน่า ต่อไปก็ต่อเมื่อคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้เพียงสถานเดียวเท่านั้น

    เซเตียน เก้าอี้ร้อนหลังเสียท่าพลาดแชมป์ ลา ลีกา ให้กับ เรอัล มาดริด แถมยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกับนักเตะในทีมโดยเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ประจำทีม

    บาร์ซ่า จะลงเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง กับ นาโปลี ที่ คัมป์ นู วันเสาร์ที่ 8 ส.ค.นี้ หลังเกมแรกเสมอกันมา 1-1

    3. ผีสบายๆ อาจส่งสำรองบู๊ลินซ์

    แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ยูโรปา ลีก สดใส หลังเกมแรกในรอบ 16 ทีมสุดท้าย บุกไปอัด แอลเอเอสเค ลินซ์ ถึง 5-0  ก่อนกลับมาเล่นนัดสองที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันพุธที่ 5 ส.ค. นี้

    ในการซ้อม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เปิดโอกาสให้กลุ่มดาวรุ่งหลายคนทั้ง เอธาน เลียร์ด, เจมส์ การ์เนอร์ และ ทาฮิธ ชอง ซ้อมกับทีมชุดใหญ่ และทั้งหมดอาจมีชื่อเป็นสำรองด้วย

    หาก "ปีศาจแดง" ผ่านเข้ารอบจะไปเจอผู้ชนะระหว่าง อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ (ตุรกี) และ เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก) ในการเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้าย แบบนัดเดียวรู้ผลที่ประเทศเยอรมนี

    4. ไลป์ซิก จะเป็นอย่างไรเมื่อไร้ แวร์เนอร์

    แอร์เบ ไลป์ซิก มีโปรแกรมต้องดวลกับ แอตเลติโก มาดริด ทีมแกร่งจากสเปน ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย แบบนัดเดียวที่โปรตุเกส วันพฤหัสบดีที่ 13 ส.ค.นี้

    ปัญหาใหญ่ที่ ไลป์ซิก ต้องเผชิญคือเวลานี้ไม่มี ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าตัวเก่ง ที่ชิ่งหนีไปอยู่กับ เชลซี เรียบร้อย หลังไม่ยอมอยู่ช่วยทีมในเกมยุโรป

    แวร์เนอร์ เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ ไลป์ซิก เข้ามาถึงรอบนี้ หลังทำไป 4 ประตู และ 2 แอสซิสต์ รวมทั้งทำประตูให้ทีมในเกมเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

    5. เปแอสเช ลุ้น เอ็มบั๊ปเป้

    คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้าคนสำคัญของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คงฟิตไม่ทันเวลาช่วยทีมในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ กับ อตาลันต้า ที่ลิสบอน วันพุธที่ 12 ส.ค.นี้

    เอ็มบัปเป้ ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวาจากเกม เฟร้นช์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่ เปแอสเช เชือด แซงต์-เอเตียน 1-0  เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา และต้องพักราว 3 สัปดาห์

    หาก เปแอสเช เดินหน้าเข้ารอบรองชนะเลิศ ก็ยังพอมีโอกาสที่ เอ็มบั๊ปเป้ จะหายทันกลับมาช่วยทีม

บาร์เซโลน่าจัดหนัก! “เมสซี่” นำยิง,นาโปลีเช็ก “อินซินเย่” รอบ16ทีม ชปล.

"เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกนำปิดสกอร์โดย ลิโอเนล เมสซี่ เกมรับการมาเยือนของ "อัซซูร่า" นาโปลี ที่ต้องลุ้นให้ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ฟิตทันลงสนาม ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2) วันเสาร์ที่ 8 ส.ค. ศกนี้  (เวลา : 02.00 น.)

ปรีวิว ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2)
วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2563 (เวลา : 02.00 น.)
บาร์เซโลน่า   –   นาโปลี
(ผลสกอร์นัดแรกเสมอ 1-1)

สนาม : คัมป์ นู

    กีเก้ เซเตียน กุนซือเจ้าบุญทุ่ม ซึ่งถือว่ามีผลงานในลีกน่าผิดหวังกับการเข้ารับงานแทน เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ต้องเริ่มตอบแทนความไว้วางใจจาก โจเซป บาร์โตเมว ประธานสโมสรยืนยันหนุนหลังการทำทีมเหมือนเคย หลังเลกแรกบุกไปเจ๊าที่ซาน เปาโล 1-1 ก่อนพักเบรกโควิด-19

    เกมนี้ ซามูแอล อุมติตี้ แนวรับเลือดน้ำหอมหัวเข่ายังเดี้ยงไม่หาย ทว่า อุสมาน เดมเบเล่ หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสสลัดอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าคืนซ้อมแล้ว แต่ระดับความฟิตยังเป็นเครื่องหมายคำถามเต็มที่คงมีชื่อสำรองข้างสนามเช่นเดียวกับ โรนัลด์ อาเราโฆ (ข้อเท้า)

    ทว่าแดนกลางต้องปรับแน่ๆ 2 จุดเพราะ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ กับ อาร์ตูโร่ วีดาล ติดโทษแบน ทำให้ อิวาน ราคิติช จะออกสตาร์ต รวมถึง เซร์จี้ โรแบร์โต้ ขยับขึ้นมาเสริมมากกว่าออปชั่นใช้ดาวรุ่งอย่าง ริกี ปุช ในเกมพลาดไม่ได้แบบนี้

    มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น, เฟร็งกี้ เดอ ยอง, เคราร์ด ปีเก้ ที่นั่งสำรองเกมส่งท้ายซีซั่นลา ลีกา บุกถล่มอลาเบส 5-0 อองตวน กรีซมันน์ ซึ่งเจ็บต้นขาเล็กน้อยหลุดจากทีมวันนั้นน่าลงประสานงานแนวรุกกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ ตามปกติ รวมถึง เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ เจ็บโคนขาหนีบเล็กน้อยก็น่าเล่นไหว

    เจนนาโร่ กัตตูโซ่ เทรนเนอร์ทัพอัซซูร่า ต้องไปให้สุดทางคว้าบิ๊กเอียร์ที่ลิสบอนมาครองให้ได้เพียงสถานเดียว ถ้าอยากกลับมาเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า ไม่งั้นในฐานะแชมป์โคปปา อิตาเลีย ได้สิทธิ์แค่ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น โดยเลกแรกเปิดบ้านเสมอ 1-1

    เกมนี้มีแนวโน้มเลือกใช้แท็กติกแพ็กแดนกลางเน้นไว้บดบี้และชิงบอลแดนกลางเหมือนที่ซดกันยกแรกปลายเดือนกุมภาพันธ์ ดีเอโก้ เดมเม่ ห้องเครื่องเลือดเบียร์ปักหลักทำลายการเซตเกมรุกอาซูลกราน่าเพื่อผ่อนภาระหลังบ้าน

    ปัญหาน่ากังวลคือ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ รอเช็กอาการเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาโดนเปลี่ยนออกท้ายเกมชนะลาซิโอ มี เออร์วิง โลซาโน่ คอยสแตนบาย คอนตาส มาโนลาส ยืนกรานอาการเจ็บซี่โครงหายเป็นปลิดทิ้ง เช่นเดียวกับ นิโกล่า มักซิโมวิช (ข้อเท้า) มีชื่อนั่งสำรองได้แล้ว

    ฟาอูซี่ กูล็อม แบ็กซ้ายแอลจีเรีย, เอลเซอิด ฮีซาจ แบ็กขวาโมร็อกโก, อัลลัน มิดฟิลด์บราซิเลียนต้องนั่งรอโอกาสจากนัดปิดฤดูกาลกัลโช่ เซเรีย อา เปิดบ้านแซงอัดลาซิโอ 3-1 ตามเดิม สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า หลุดสำรอง ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ดาวยิงสูงสุด 6 ลูกทัวร์นาเมนต์นี้ยืนค้ำแดนหน้า อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค คอยเป็นตัวโจ๊กเกอร์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

    บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น – เนลซอน เซเมโด้, เคราร์ด ปีเก้, เกลม็องต์ ล็องเลต์, จอร์ดี้ อัลบา – เซร์จี้ โรแบร์โต้, เฟร็งกี้ เดอ ยอง, อิวาน ราคิติช – ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, อองตวน กรีซมันน์

    นาโปลี (4-1-4-1) : ดาวิด ออสปิน่า – โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, คอสตาส มาโนลาส, คาลิดู คูลิบาลี่, มาริโอ รุย – ดีเอโก้ เดมเม่ – โฆเซ่ กาเยฆอน, ฟาเบียน รูอิซ, พิโอเตอร์ ซีลินสกี้, ลอเรนโซ่ อินซินเย่ (เออร์วิง โลซาโน่) – ดรีส์ เมอร์เท่นส์

    ผู้ตัดสิน : คูเนย์ต คาเกียร์ (ตุรกี)

 

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด
วัน/เดือน/ปี    รายการ    ผลการแข่งขัน
26/02/20    ชปล.นาโปลี1-1บาร์เซโลน่า
11/08/19    กระชับมิตรนาโปลี0-4บาร์เซโลน่า
08/08/19    กระชับมิตรบาร์เซโลน่า2-1นาโปลี
07/08/14    กระชับมิตรนาโปลี1-0บาร์เซโลน่า
23/08/11    กระชับมิตรบาร์เซโลน่า5-0นาโปลี

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
บาร์เซโลน่า
19/07/20 ชนะ อลาเบส 5-0 (เยือน) ลา ลีกา
17/07/20 แพ้ โอซาซูน่า 1-2 (เหย้า) ลา ลีกา
12/07/20 ชนะ เรอัล บายาโดลิด 1-0 (เยือน) ลา ลีกา
09/07/20 ชนะ เอสปันญ่อล 1-0 (เหย้า) ลา ลีกา
06/07/20 ชนะ บียาร์เรอัล 4-1 (เยือน) ลา ลีกา

นาโปลี
02/08/20 ชนะ ลาซิโอ 3-1 (เหย้า) เซเรีย อา
29/07/20 แพ้ อินเตอร์ มิลาน 0-2 (เยือน) เซเรีย อา
26/07/20 ชนะ ซาสซูโอโล่ 2-0 (เหย้า) เซเรีย อา
23/07/20 แพ้ ปาร์ม่า 1-2 (เยือน) เซเรีย อา
20/07/20 ชนะ อูดิเนเซ่ 2-1 (เหย้า) เซเรีย อา

ของดีทั้งนั้น!11แข้งฝีเท้าไม่ธรรมดาจาก3สโมสรตกชั้น

 ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2019/20 ปิดฉากลงไปอย่างเป็นทางการเรียบร้อย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งสามสโมสรที่ต้องตกชั้นลงไปโลดแล่นในเวที แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้านั้น ประกอบไปด้วย นอริช ซิตี้, บอร์นมัธ และ วัตฟอร์ด ทว่าสโมสรเหล่านี้มีนักเตะฝีเท้าดีในสังกัดหลายราย และคู่ควรที่จะได้รับความสนใจจากบรรดาสโมสรที่ใหญ่กว่า ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หากบางคนได้อยู่โชว์เพลงแข้งในเวที พรีเมียร์ลีก ต่อในฤดูกาลหน้า หรือไม่ก็ย้ายไปค้าแข้งในลีกระดับสูงที่อื่น และนี่คือ 11 แข้งที่น่าสนใจจากสามสโมสรตกชั้น ซึ่งคัดสรรโดยสื่อชื่อดังของอังกฤษอย่าง The Sun
 – เบน ฟอสเตอร์ (วัตฟอร์ด)

     นายทวารวัย 37 ปี มีประสบการณ์เพียบในลีกสูงสุดอังกฤษ โดยลงเฝ้าเสาไปทั้งสิ้น 364 นัด เก็บคลีนชีตได้ 88 ครั้ง ดังนั้น ฟอสเตอร์ ถือเป็นผู้รักษาประตูที่น่าสนใจทีเดียว ซึ่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีกระแสข่าวว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อยากได้เจ้าตัวไปสร้างความกดดันให้กับนายประตูมือหนึ่้งอย่าง อูโก้ โยริส แต่ข่าวการย้ายทีมก็เงียบไป หลัง ฟอสเตอร์ ตกลงขยายสัญญากับ "แตนอาละวาด" เมื่อเดือนก่อน

 – แม็กซ์ แอรอนส์ (นอริช ซิตี้)

  ฤดูกาลที่ผ่านมา แอรอนส์ ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ให้ นอริช ไปถึง 36 นัด และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ จนมีข่าวว่า สเปอร์ส (อีกแล้ว) อยากได้ตัวไปร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ และด้วยการที่ตอนนี้ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ตกชั้นเรียบร้อย จึงน่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับ "ไก่เดือยทอง" ในการเร่งปิดดีลกระชากตัว แบ็กขวาวัย 20 ปี ไปร่วมก๊วน

 – นาธาน อาเก้ (บอร์นมัธ)

  อาเก้ ถือเป็นกองหลังฝีเท้าดีที่ใครๆ ก็ทราบกันดี โดยเมื่อเร็วๆ นี้มีรายงานว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่อปิดดีลได้แล้ว แต่สุดท้ายข่าวก็เงียบๆ ไป ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงต้นสังกัดเก่าอย่าง เชลซี ก็มีข่าวอยากได้ตัว ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์วัย 25 ปี เช่นกัน ซึ่งถึงแม้ บอร์นมัธ เคยตั้งค่าหัว อาเก้ ไว้สูงถึง 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,200 ล้านบาท) แต่ด้วยสถานะของสโมสรตอนนี้ที่ตกชั้นเรียบร้อย พวกเขาจึงน่าจะยอมขายในราคาที่ถูกกว่าที่ตั้งเอาไว้ครึ่งหนึ่ง

 – เบน ก็อดฟรีย์ (นอริช ซิตี้)

 

  เป็นอีกหนึ่งแข้งที่น่าสนใจจากค่าย "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ซึ่งเราอาจจะได้เห็นเขาออกไปค้าแข้งในลีกต่างแดนก็เป็นได้ เพราะช่วงที่ผ่านมามีข่าวว่า สองสโมสรดังในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ แอร์เบ ไลป์ซิก กำลังให้ความสนใจอยู่ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก ก็เล็งๆ ปราการหลังวัย 22 ปี รายนี้เช่นกัน

 – ดีเอโก้ ริโก้ (บอร์นมัธ)

  แม้ทัพ "เดอะ เชอร์รี่ส์" จะกระเด็นตกชั้น แต่ แบ็กซ้ายชาวสแปนิชวัย 27 ปี ซึ่งย้ายมาจาก เลกาเนส เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ถือเป็นนักเตะอีกคนในสังกัดที่ทำผลงานได้น่าจับตา โดยเฉพาะการเติมเกมรุก ซึ่งประสบการณ์ในเกม พรีเมียร์ลีก 39 นัดนั้น เจ้าตัวจัดไป 4 แอสซิสต์ ถือว่าไม่เลวเลย 

 – เคราร์ด เดวโลเฟว (วัตฟอร์ด)

  เรื่องฝีเท้าของ อดีตเด็กปั้น บาร์เซโลน่า คนนี้ ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่ปัญหาบาดเจ็บอย่างรุนแรงตรงหัวเข่า ทำให้เจ้าตัวต้องพักแข้งยาวมาตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ทว่าผลงานของ เดวโลเฟว ก่อนเดี้ยงนั้น ถือว่าไม่ใช่เล่นๆ เลย เพราะเจ้าตัวกดไป 4 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเกมลีก 28 นัด ดังนั้นเมื่อกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง เดวโลเฟว จึงถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่บรรดาสโมสรใน พรีเมียร์ลีก ควรจับตามอง

 – อับดูลาย ดูคูเร่ (วัตฟอร์ด)

  มิดฟิลด์เฟร้นช์แมนวัย 27 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลที่อยู่รับใช้ทัพ "แตนอาละวาด" โดยลงเล่นไปทั้งสิ้น 141 นัด ทำได้ 17 ประตู แต่เราคงจะไม่ได้เห็นเขาอยู่เล่นในระดับ แชมเปี้ยนชิพ ค่อนข้างแน่ เพราะเจ้าตัวแย้มเอาไว้ตั้งแต่เดือนมกราคมแล้วว่า ตั้งเป้าที่จะย้ายทีมหลังจบซีซั่น และมีความฝันที่จะเล่นให้กับยักษ์ใหญ่ในศึก ลีก เอิง อย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

 – ท็อดด์ แคนท์เวลล์ (นอริช ซิตี้)

  แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะได้เห็น แคนท์เวลล์ อยู่กับ นอริช ต่อ เพราะฤดูกาลที่ผ่านมา มิดฟิลด์เลือดผู้ดีวัย 22 ปี ทำผลงานได้เข้าตาเหลือเกิน โดยลงเล่นเกมลีกไปทั้งสิ้น 37 นัด ทำได้ 6 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ จนมีข่าวเกี่ยวโยงกับบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั้งในและนอกประเทศ อย่างเช่น ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ บาเยิร์น มิวนิค เป็นต้น

 – โจชัว คิง (บอร์นมัธ)

  หัวหอกทีมชาตินอร์เวย์วัย 28 ปี มีผลงานทำ 48 ประตู กับ 14 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 161 นัด ให้ทัพ "เดอะ เชอร์รี่ส์" ดังนั้น คิง จึงถือเป็นกองหน้าที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับเหล่าสโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ต้นสังกัดเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยมีข่าวอยากได้เจ้าตัวกลับสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

 – ตีมู ปุ๊กกี้ (นอริช ซิตี้)

  เป็นอีกหนึ่งของดีจากถิ่น แคร์โรว์ โร้ด แม้ 13 เกมหลังสุดในศึก พรีเมียร์ลีก เจ้าตัวผลิตสกอร์ไม่ได้เลยก็ตาม แต่ผลงานโดยรวมตลอดทั้้งซีซั่น กระทุ้งไป 11 ประตู จากการลงเล่น 36 นัด ซึ่งถือว่าไม่เลว และนั่นทำให้ กองหน้าทีมชาติฟินแลนด์วัย 30 ปี มีข่าวเกี่ยวโยงกับ เบซิคตัส สโมสรยักษ์ใหญ่ลีกตุรกี

 – ทรอย ดีนี่ย์ (วัตฟอร์ด)

  แม้อายุปาเข้าไป 32 ปีแล้ว แต่ ดีนี่ย์ ถือเป็นของดีที่น่าสนใจไม่น้อย หลังจากที่กดไป 10 ประตู จาก 27 เกมในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด โดยปัจจุบันเหลือสัญญากับ "แตนอาละวาด" อีกแค่ปีเดียว ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่เจ้าตัวจะเลือกอำลาทีมช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เจ้าตัวเปรยๆ เอาไว้เรียบร้อย หลังจบเกมปิดซีซั่นที่ วัตฟอร์ด บุกพ่าย อาร์เซน่อล 2-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา