ระบาดไม่หยุด!แนวรับเป้าหมายแมนยูติดโควิด19

จูลส์ กุงเด้ กองหลังตัวเก่ง เซบีย่า มีผลการตรวจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้นักเตะต้องทำการกักตัวเป็นการด่วน และจะพลาดลงสนามหลายแมตช์ โดยเฉพาะเกมเยือน เชลซี ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก คาดนักเตะจะกลับมาได้ในเกมพบ แรนส์ อีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
              
เซบีย่า สโมสรในศึกลา ลีกา สเปน ประกาศยืนยัน จูลส์ กูงเด้ กองหลังชาวฝรั่งเศส ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากผลการตรวจเป็นบวก ส่งผลให้นักเตะหมดสิทธิ์ช่วยต้นสังกัดหลายเกม โดยเฉพาะแมตช์ที่จะต้องปะทะกับ เชลซี ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี

กูงเด้ เดินทางกลับมาจากการรับใช้ทีมชาติฝรั่งเศส รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยผลออกมานักเตะติดเชื้อ ทำให้ เซนเตอร์แบ็กวัย 21 ปี ต้องเข้ารับการกักตัวทันทีตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบายของสาธารณสุข

ด้วยเหตุนี้ทำให้ เซบีย่า หมดสิทธิ์ใช้งาน กูงเด้ ในเกมลีกที่จะพบกับ กรานาด้า และ เออิบาร์ ขณะเดียวกันพวกเขายังไม่สามารถใช้งานแนวรับดาวรุ่งพุ่งแรงรายนี้ได้ในแมตช์ที่จะต้องไปเยือนทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมถ้วยใบโตยุโรป กลางสัปดาห์หน้าด้วย โดยคาดว่า กูงเด้ จะกลับมาลงสนามให้ต้นสังกัดในแมตช์พบกับ แรนส์ เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ทั้งนี้ กูงเด้ ซึ่งเป็นหนึ่งในขุนพลสำคัญนำ เซบีย่า ดับซ่า อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เคยมีข่าวได้รับความสนใจจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ช่วงซัมเมอร์นี้ แต่สุดท้าย  "เรือใบสีฟ้า" เลือกเซ็นสัญญากับ รูเบน ดิอาส แทน ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พยายามคว้าเซนเตอร์แบ็กใหม่ ก็อยากได้นักเตะรายนี้ไปเล่นคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ด้วย

 

ลดให้แล้ว!ชาลเก้ตั้งค่าตัวเป้าหมายลิเวอร์พูล

สื่อเผย ชาลเก้ ยอมลดค่าตัว โอซาน คาบัค กองหลังอนาคตไกล ลงมาไม่แพงแล้ว หลังมีข่าว ลิเวอร์พูล อยากได้ไปเสริมแนวรับช่วงหน้าหนาว
    ชาลเก้ 04 สโมสรในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ตั้งค่าตัว โอซาน คาบัค ปราการหลังดาวรุ่งทีมชาติตุรกี ไว้ที่ 27.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,084 ล้านบาท) ภายหลังจากที่ ลิเวอร์พูล ตามให้ความสนใจ ตามรายงานจาก สปอร์ต มีเดีย เซต เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา

    "หงส์แดง" กำลังมองหาเซนเตอร์แบ็กคนใหม่เข้ามาเสริมทัพในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้ เพราะ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังคนเก่งต้องพักยาวจากการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า หลังโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวาร เอฟเวอร์ตัน เข้าสกัดหนักใส่ในเกมลีกที่เสมอกัน 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา

    รายงานระบุว่า เป้าหมายแรกที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล อยากดึงมาเสริมทัพหน้าหนาวคือ เบน ไวท์ ของ ไบรท์ตัน อย่างไรก็ตาม "เจ้านกนางนวล" ต้องการค่าตัวถึง 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,000 ล้านบาท) ทำให้อาจเบนมาที่ คาบัค ที่มีค่าตัวถูกกว่าถึงเกือบครึ่งเลยทีเดียว

    ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา "หงส์แดง" เคยมีข่าวกับ คาบัค มาแล้ว และเวลานั้น ชาลเก้ ตั้งค่าตัวไว้ที่ 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) แต่หลังจากที่ "ราชันสีน้ำเงิน" ออกสตาร์ตฤดูกาลย่ำแย่ทำให้พร้อมลดราคานักเตะลงมา โดยนอกจาก ลิเวอร์พูล แล้ว ยังมี เอซี มิลาน ที่ให้ความสนใจอยู่เหมือนกัน

    สำหรับ คาบัค วัย 20 ปี มีสไตล์การเล่นที่ดุดัน แข็งแกร่ง รวดเร็ว และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ทำให้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลัง เรอัล มาดริด นอกจากนั้นยังเป็นนักเตะที่มีความกล้าลุยกล้าแลก ชนไม่ถอยจนถึงกับเคยจมูกหัก หน้าแตกมาแล้ว รวมทั้งมี ฟาน ไดค์ เป็นไอดอลของตัวเองด้วย

คาร์ร่าแนะลิเวอร์พูลเลื่อนแผนปิดดีล1แข้งเร็วขึ้น

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตปราการหลังคนเก่งของ ลิเวอร์พูล ระบุ "หงส์แดง" ควรจะเลื่อนแผนมาปิดดีลกับ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ เป็นภายในวันที่ 1 มกราคมนี้ หลังจากเดิมทีเชื่อกันว่า ลิเวอร์พูล ให้ความสนใจในตัวเขาและคิดที่จะดึงเจ้าตัวมาร่วมทัพเมื่อถึงช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า
   
เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตยอดกองหลังของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความเชื่อว่าอดีตต้นสังกัดของตนควรจะดึง ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กองหลัง แอร์เบ ไลป์ซิก มาร่วมทีมให้ได้เร็วขึ้น โดยควรจะทำให้อีกฝ่ายย้ายมายู่กับทีมตั้งแต่วันแรกของตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบ 2 ช่วงเดือนมกราคมนี้เลย

ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังเจอกับปัญหาในตำแหน่งแผงหลังจากการที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เซนเตอร์แบ็กคนเก่งมีอาการเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกจนต้องพักเป็นเวลานาน และอาจจะถึงขั้นหมดสิทธิ์ลงเล่นไปตลอดทั้งซีซั่นนี้ ทำให้ตอนนี้เซนเตอร์แบ็กตามธรรมชาติที่พอมีประสบการณ์สูงกับการเล่นในระดับทีมชุดใหญ่ของพวกเขาเหลือเพียง โจ โกเมซ กับ โฌแอล มาติป เท่านั้น

สำหรับ อูปาเมกาโน่ นั้น ทำผลงานได้โดดเด่นมากๆ กับที่ ไลป์ซิก จนทำให้หลายทีมสนใจที่จะดึงเขาไปร่วมทัพ อย่างเช่น ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นต้น ซึ่งถึงแม้เจ้าตัวจะต่อสัญญากับทีมไปจนถึงปี 2023 เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่หลายคนก็ยังเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว ไลป์ซิก จะยอมขายเขาเมื่อถึงช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าอยู่ดี

คาร์ราเกอร์ เผยว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเดิมที ลิเวอร์พูล ต้องทุ่มเทเต็มที่กับการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์หน้า แต่ตอนนี้ไม่ว่าเดิมทีเป้าหมายในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าของพวกเขาจะเป็นใครน่ะ พวกเขาก็ต้องเลื่อนมาเป็นทำให้เสร็จภายในวันที่ 1 มกราคมนี้ พวกเขาห้ามรอไปปิดดีลตอนจบเดือนมกราคมด้วย พวกเขาไม่ควรจะเสียเวลามากเกินไปในการเจรจากับสโมสรอื่น"

"ตอนนี้ทุกคนกำลังพูดถึง ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ซึ่งเป็นกองหลังวัยหนุ่มของ ไลป์ซิก ผมไม่รู้ว่าเขามีประวัติที่ดูดีเหมือน ฟาน ไดค์ รึเปล่า และที่จริงเขาก็อาจจะไม่ได้มีจุดเด่นเรื่องลูกกลางอากาศเท่าไหร่ด้วยจากการที่สูงเพียง 6 ฟุต 1 นิ้ว หรือ 6 ฟุต 2 นิ้ว แต่ถ้าเกิดเขาเป็นคนที่พวกเขาอยากได้มาร่วมทีมแล้วล่ะก็ พวกเขาก็ควรจะต้องเลื่อนแผนการซื้อเขาให้เร็วขึ้น"

"พวกเขาควรจะต้องยอมเสียเงินเพิ่มแล้วปิดดีลให้ได้ในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้น ลิเวอร์พูล ต้องลงเล่นเกมลีก 11 นัดโดยที่ไม่มี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ คอยช่วยไปด้วย สิ่งหนึ่งที่ควรพูดถึงเกี่ยวกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ก็คือใน 23 เกมหลังสุดของ ลิเวอร์พูล พวกเขาเก็บคลีนชีทได้เพียง 5 นัด และ ฟาน ไดค์ ก็ลงเล่นในทั้ง 23 นัดที่ว่า ดังนั้นมันก็ไม่ใช่ว่าต่อให้ ฟาน ไดค์ ลงเล่นได้แล้วทุกอย่างมันจะสมบูรณ์แบบ เราเห็นกันแล้วว่าพวกเขาเคยเสีย 7 ลูกในเกมกับ แอสตัน วิลล่า และยังมีเกมกับ ลีดส์ อีก (ลิเวอร์พูล ชนะ 4-3) แต่ผมก็คิดว่าพวกเขาจำเป็นต้องทำการเสริมทัพครั้งใหญ่อยู่ดี"

 

แฟนผี,ปืนรอชม!จับตา5แข้งดังเปิดซิงกับต้นสังกัดใหม่สุดสัปดาห์นี้

ตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีนักเตะชื่อดังมากมายที่ตบเท้ามาค้าแข้งในเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งก็มีหลายคนที่้เราได้ยลฝีเท้ากันไปแล้ว อาทิเช่น ติโม แวร์เนอร์, ไค ฮาแวร์ตซ์, ดอนนี่ ฟาน เดอร์ เบ็ค และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า แต่ก็ยังมีอีกหลายคนเช่นกันที่รอวันเปิดซิง เพราะดันมีโปรแกรมเกมทีมชาติมาขั้นกลางเสียก่อน ทว่าสุดสัปดาห์นี้เกม พรีเมียร์ลีก จะกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง และนี่คือ 5 นักเตะดาวดังที่อาจได้ลงเปิดซิงกับต้นสังกัดใหม่ในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

– โธมัส ปาร์เตย์ (อาร์เซน่อล)

นี่คือการเซ็นสัญญาที่สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" ตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ อาร์เซน่อล ปิดดีลคว้าตัวมาจาก แอตเลติโก มาดริด ได้สำเร็จ ทันเดดไลน์ปิดตลาดพอดี เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม แน่นอนว่า ปาร์เตย์ ถูกคาดหวังไว้สูงมากๆ ในการเข้ามาช่วยยกระดับแดนกลางของทีม ซึ่งก็มีโอกาสไม่น้อยที่กุนซือ มิเกล อาร์เตต้า จะเลือกใช้บริการฝีเท้าของเจ้าตัวทันที ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือส่งลงสำรอง ในเกมบิ๊กแมตช์ที่ อาร์เซน่อล มีคิวบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันเสาร์นี้ และด้วยการที่เจอกับทีมแกร่งอย่าง "เรือใบสีฟ้า" มันจึงน่าจะเป็นบททดสอบที่ดีไม่น้อยสำหรับนักเตะค่าตัว 45 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,845 ล้านบาท) 

 – อเล็กซ์ เตลลิส (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

อาจเป็นซัมเมอร์ที่สโมสรเสริมทัพได้ไม่ค่อยโดนใจสาวก "เร้ด อาร์มี่" แต่ เตลลิส ถือเป็นนักเตะฝีเท้าดีที่น่าจะคาดหวังได้ หลังจากที่เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ปอร์โต้ และเกมบุกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่สังเวียนแข้ง เซนต์ เจมส์ พาร์ค วันเสาร์นี้ มีแนวโน้มสูงไม่น้อยเลยที่กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะส่งฟูลแบ็กชาวบราซิเลียนวัย 27 ปี สู่ทีมตัวจริงทันที หลังจากที่ ลุค ชอว์ แบ็กซ้ายเลือดผู้ดี ทำผลงานได้น่าผิดหวังในเกมล่าสุดที่พ่ายยับต่อ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-6 คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว

 – ริอาน บรูว์สเตอร์ (เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด)

 บรูว์สเตอร์ ไม่ใช่นักเตะหน้าใหม่ในเวที พรีเมียร์ลีก แต่เขาไม่เคยได้ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก เลย ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่อยู่ในทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล เพราะฉะนั้นการย้ายมาร่วมทีม เชฟฯ ยูไนเต็ด ครั้งนี้ เจ้าตัวมีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะพิสูจน์ฝีเท้าของตัวเอง และด้วยค่าตัวระดับ 23.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 963.5 ล้านบาท) เขาคงไม่ถูกเซ็นมาเพื่อนั่งสำรองแน่ ดังนั้นกุนซือ คริส ไวล์เดอร์ น่าจะให้โอกาส หัวหอกวัย 20 ปี ได้สร้างความมั่นใจในเกมวันอาทิตย์นี้ ที่ทัพ "ดาบคู่" มีคิวเปิดรัง บรามอลล์ เลน รับมือทีมอันดับสุดท้ายอย่าง ฟูแล่ม

  – รูเบน ลอฟตัส-ชีค (ฟูแล่ม)

ไม่ต่างกับ บรูว์สเตอร์ เพราะ ลอฟตัส-ชีค เองก็มีความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ฝีเท้าเช่นกัน หลังจากที่กลายเป็นแข้งส่วนเกินในทีม เชลซี ยุคกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด แถมเจอปัญหาบาดเจ็บรุมเร้ามาตลอดช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด ดังนั้นการย้ายมาร่วมก๊วน "เจ้าสัวน้อย" ภายใต้สัญญายืมตัวครั้งนี้ จึงน่าจะเป็นโอกาสอันดีสำหรับ มิดฟิลด์ร่างใหญ่วัย 24 ปี ที่จะได้ทำผลงาน เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า เขาไม่ใช่อีกหนึ่งแข้งที่เคยเป็นดาวรุ่งของอังกฤษ แต่กลับไปไม่สุด และเกมวันอาทิตย์นี้ ที่ ฟูแล่ม มีคิวบุกไปเยือน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เขามีแววที่จะถูกส่งลงสนามตั้งแต่วินาทีแรกเลย

 – แกเร็ธ เบล (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)

หลังปิดดีลย้ายกลับมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยสัญญายืมตัว 1 ซีซั่น ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนที่แล้ว เชื่อเหลือเกินว่า แฟนๆ "ไก่เดือยทอง" ต่างเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ ที่จะได้เห็น เบล กลับมาลงสนามภายใต้ยูนิฟอร์มของ สเปอร์ส เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ทว่าด้วยสภาพร่างกายที่ยังไม่พร้อม ทำให้ เบล ลงเล่นไม่ได้ตลอดช่วงหลายเกมที่ผ่านมา แต่เกมในวันอาทิตย์นี้ ที่ สเปอร์ส มีโปรแกรมเปิดบ้านทำศึกดาร์บี้แมตช์กรุงลอนดอนกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ถือว่ามีโอกาสไม่น้อยที่ ปีกจรวดชาวเวลส์วัย 31 ปี จะได้รับโอกาสโชว์ฝีเท้าจากกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ หลังจากที่มุ่งมั่นฟิตร่างกายจนกลับมาพร้อมอีกครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเสียดายอย่างมากคือ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้เราจะไม่ได้เห็นภาพ เบล ได้รับการต้อนรับที่แสนอบอุ่นจากแฟนบอล "ไก่เดือยทอง" หลายหมื่นชีวิตที่สังเวียนแข้ง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม

ใครดี? 4แข้งเหมาะย้ายมาเป็นตัวแทนฟานไดค์ตลาดหน้าหนาว

สืบเนื่องจากการที่ ลิเวอร์พูล กำลงประสบปัญหาในแนวรับ หลังจากต้องเสีย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บหนักจากเกม เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ กับ เอฟเวอร์ตัน
    ฟาน ไดค์ วัย 29 ปี ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวจากชอตที่โดน จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตู เอฟเวอร์ตัน พุ่งเข้าชนในนัดล่าสุดที่ "หงส์แดง" ออกไปเสมอกับ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" 2-2 ในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยเขาจำเป็นต้องรับการผ่าตัด และเชื่อกันว่าในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดนั้นแข้งวัย 29 ปีก็อาจจะต้องพักทั้งฤดูกาลนี้เลย

    ส่งผลให้เวลานี้ ลิเวอร์พูล จะเหลือเพียง โจ โกเมซ และ โฌแอล มาติป ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ที่เชื่อใจได้เท่านั้น แต่ก็สามารถจับ ฟาบินโญ่ ถอยไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์จำเป็น ซึ่งเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำผลงานได้ดี

    อย่างไรก็ตามช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะเดือนมกราคมนี้ก็เป็นโอกาสที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้เสริมผู้เล่นเข้ามาใหม่ นี่คือ 4 นักเตะที่เหมาะย้ายมาเป็นตัวแทน ฟาน ไดค์

ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ – ไลป์ซิก

    ปรากาหลังทีมชาติฝรั่งเศกลายเป็นหนึ่งในแนวรับที่เนื้อหอมมากที่สุดคนหนึ่งในยุโรปในช่วงตลาดนักเตะเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากโชว์ผลงานสุดแจ่มให้ ไลป์ซิก ซึ่ง ลิเวอร์พูล ก็เคยมีข่าวให้ความสนใจมาแล้วด้วย

    อูปาเมกาโน่ เป็นกองหลังที่มีรูปร่างสูงใหญ่ทำให้เขามีสไตล์การเล่นที่แข็งแกร่งดุดัน และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี โดยดาวเตะวัย 21 ปี เพิ่งจะจรดน้ำหมึกต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปถึงปี 2023 จนทำให้ค่าตัวของเขาน่าจะสูงพอตัว อย่างไรก็ตามในรายละเอียดสัญญาฉบับล่าสุดนั้นเจ้าตัวจะสามารถย้ายออกไปได้ในราคาเพียง 38 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,537 ล้านบาท) แต่จะสามารถใช้ได้เมื่อถึงตลาดซัมเมอร์ปีหน้าเท่านั้น 

คอเนอร์ เคาดี้ – วูล์ฟแฮมป์ตัน

    เคาดี้ เคยอยู่กับทีมชุดเยาวชนของ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2005 ก่อนจะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2011 แต่ได้ลงเล่นเพียงเกมเดียวในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น ก่อนจะย้ายออกไปอยู่กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (ยืมตัว), ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ก่อนจะมาเป็นกำลังสำคัญให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน จนถึงปัจจุบัน

    ผลงานของดาวเตะวัย 27 ปี พัฒนาขึ้นตามลำดับช่วยให้แนวรับของทีม "หมาป่า" แข็งแกร่งสุดๆ จนกลายเป็นกัปตันทีมในเวลานี้ พร้อมกับถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่โดยลงเล่นไปแล้ว 3 เกม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แต่คงเนอีกดีลที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะ วูล์ฟส ก็ไม่ต้องการจะปล่อยตัวออกไปเช่นกัน    

โอซาน คาบัค – ชาลเก้

    ชื่อของ โอซาน คาบัค ปราการหลังดาวรุ่งจาก ชาลเก้ เคยโผล่เข้ามาเป็นเป้าหมายรายใหม่ของ ลิเวอร์พูล ในการดึงมาเสริมแกร่งแนวรับในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากพวกเขาเสีย เดยัน ลอฟเรน กองหลังประสบการณ์สูงให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก โดยคาดว่าเขาจะมีค่าตัว 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,630 ล้านบาท)

    ด้วยสไตล์การเล่นที่มีความดุดัน มีทั้งความแข็งแกร่ง รวดเร็ว และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ทำให้เขาถูกสื่อต่างประเทศนำไปเปรียบเทียบกับ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังจาก เรอัล มาดริด นอกจากนี้ คาบัค ยังเป็นนักเตะที่มีความกล้าลุยกล้าแลก ชนไม่ถอยจนถึงกับเคยจมูกหัก หน้าแตกมาแล้วในเกมเพลย์ออฟหนีตกชั้นกับยูเนียน เบอร์ลิน

เบน ไวท์ – ไบรท์ตัน

    ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวตามให้ความสนใจ ไวท์ วัย 22 ปี มาได้สักระยะแล้ว และล่าสุดมีรายงานด้วยว่าพวกเขาอาจเดินหน้าดึงมาเสริมทัพในตลาดหน้าหนาวนี้ แต่ "หงส์แดง" อาจต้องจ่ายเงินมากกว่า 50 ล้านปอนด์ (ราว 1,900 ล้านบาท)  ไม่งั้นต้นสังกัดของนักเตะไม่ปล่อยตัวแน่นอน

    แม้ว่าดาวเตะวัย 22 ปี จะไม่ได้เป็นกำลังหลักของ ไบรท์ตัน ในซีซั่นนี้แต่เมื่อมีโอกาสลงสนามเจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดีระดับหนึ่ง โดยย้อนไปในฤดูกาล 2019-20 เขาเป็นกำลังสำคัญในระหว่างเล่นให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว ได้แชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ พร้อมกับได้เลื่อนชั้นไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้

ระดับโลกทั้งนั้น! “เดอะ ซัน”จัดทีม11แข้งฟรีเอเยนต์ซัมเมอร์ปีหน้า

อย่างที่รู้ๆ กันว่า ฤดูกาลนี้มีนักเตะชื่อดังหลายคนกำลังอยู่ในสัญญาปีสุดท้ายกับต้นสังกัด ดังนั้นเท่ากับว่า ช่วงซัมเมอร์ปีหน้าเราอาจจะได้เห็นการโยกย้ายทีมแบบไร้ค่าตัวที่น่าสนใจหลายดีล ซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นกับนักเตะระดับโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, ปอล ป็อกบา รวมถึง เซร์คิโอ รามอส ด้วย และล่าสุดทาง เดอะ ซัน สื่อดังของอังกฤษ ก็ได้มีการจัดทีม 11 แข้งดังที่กำลังจะหมดสัญญากับต้นสังกัดหลังจบฤดูกาลนี้
– ผู้รักษาประตู : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (เอซี มิลาน)

        เชื่อเหลือเกินว่า นี่คือนายทวารที่หลายสโมสรกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งมันก็อาจจะถึงเวลาแล้วเช่นกัน ที่เจ้าตัวอาจจะเลือกออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ หลังอยู่เฝ้าเสาให้ "ปีศาจแดง-ดำ" มาตั้งแต่ปี 2015

– แบ็กซ้าย : เอริค การ์เซีย (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

         แน่นอนว่า ตำแหน่งถนัดของเขาคือปราการหลังตัวกลาง แต่กับทีมชุดนี้ การ์เซีย จำเป็นต้องถูกจับไปอยู่แบ็กขวา ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า บาร์เซโลน่า หวังกระชากเจ้าตัวออกจากถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ กระนั้น บาร์ซ่า ก็คงจะหวังซิว ปราการหลังเลือดกระทิงดุวัย 19 ปี กลับรัง คัมป์ นู แบบฟรีๆ ในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า

– เซนเตอร์แบ็ก : เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด)

        รามอส อยู่โยงรับใช้ทัพ "ราชันชุดขาว" มาตั้งแต่ปี 2005 แถมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์อย่างมากมาย จนกลายเป็นตำนานของสโมสรเรียบร้อย แต่ด้วยสัญญาที่เหลืออีกแค่ปีเดียว บางทีนี่อาจจะเป็นสัญญาฉบับสุดท้ายของ ยอดปราการหลังวัย 34 ปี ในถิ่น ซานติอาโก เบร์นาเบว ก็เป็นได้

– เซนเตอร์แบ็ก : เยโรม บัวเต็ง (บาเยิร์น มิวนิค)

        ปราการหลังดีกรีแชมป์โลกวัย 32 ปี น่าจะเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่น่าสนใจในตลาดฟรีเอเจนต์ช่วงหน้าร้อนปีหน้า หลังประสบความสำเร็จจนอิ่ม นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพ "เสือใต้" เมื่อปี 2011 กระนั้นเมื่อเร็วๆ นี้เจ้าตัวเปรยๆ ว่า ไม่ปิดโอกาสเรื่องเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ บาเยิร์น เช่นกัน

– แบ็กซ้าย : ดาวิด อลาบา (บาเยิร์น มิวนิค)

        เป็นอีกหนึ่งแข้งดังจากค่าย "เสือใต้" ซึ่งมีข่าวเกี่ยวโยงกับเรื่องย้ายทีมมาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว และด้วยการที่ อลาบา ไม่มีท่าทีที่จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัด เชื่อเหลือเกินว่า เขาจะเป็นอีกหนึ่งแข้งฟรีสุดฮอตในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า เพราะกำลังถูกหลายสโมสรระดับท็อปจับตามองอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ยูเวนตุส, บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด

– มิดฟิลด์ : ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

        มีข่าวเกี่ยวโยงกับ เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส เป็นระยะๆ แต่สุดท้าย ป็อกบา ก็ไม่ได้ย้ายไปไหน ซึ่งถึงแม้เจ้าตัวมีออปชั่นขยายสัญญาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ออกไปอีก 12 เดือนหลังจบซีซั่นนี้ แต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่ สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศสวัย 27 ปี อาจจะเลือกมองหาความท้าทายครั้งใหม่อีกรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก "ปีศาจแดง" ยังคงไร้ความสำเร็จในฤดูกาลนี้

– มิดฟิลด์ : จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (ลิเวอร์พูล)

        เป็นหนึ่งในแข้งกำลังสำคัญแดนกลางของ "หงส์แดง" มาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสองซีซั่นหลังสุด ที่ช่วยทีมสอยแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อด้วย พรีเมียร์ลีก แต่การย้ายเข้ามาของ ติอาโก้ อัลกันตาน่า ทำให้ ไวจ์นัลดุม อาจจะพิจารณาถึงเรื่องอนาคตของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่เหลือสัญญาอีกแค่ปีเดียว และแน่นอนว่า ไวจ์นัลดุม คือนักเตะที่กุนซือ โรนัลด์ คูมัน อยากดึงไปร่วมงานด้วยที่ บาร์เซโลน่า

– มิดฟิลด์ : เมซุต โอซิล (อาร์เซน่อล)

        โอซิล ดูเหมือนหมดอนาคตที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มาตั้งนานแล้ว และก็เชื่อกันว่า ตอนนี้ "ไอ้ปืนใหญ่" กำลังหาทางเขี่ยเจ้าตัวออกจากทีมอยู่ เพราะนอกจากไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า แล้ว ยังดูดเงินจากสโมสรสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ (ประมาณ 14.35 ล้านบาท) อีกด้วย บางที โอซิล อาจจะกลายเป็นแข้งฟรีเอเจนต์โดยที่ไม่ต้องรอจนถึงซัมเมอร์ปีหน้าก็ได้

–  ปีกขวา : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า)

        ทุกคนทราบดีว่า เมสซี่ เกือบจะชิ่ง บาร์ซ่า ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว แต่สุดท้ายเจ้าตัวจำยอมเลือกอยู่ช่วยทีมต่อ เพราะไม่อยากหักดิบกับต้นสังกัดที่ตัวเองรัก แต่นั่นก็คงเป็นแค่การขยายเวลาย้ายทีมออกไปเท่านั้น เพราะเมื่อสัญญากับ บาร์เซโลน่า หมดอายุลงในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า เมสซี่ ก็คงเลือกที่จะไป และแน่นอนว่า สโมสรเงินถุงเงินถังอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง พร้อมเปิดศึกชิงตัวด้วยข้อเสนอเงินค่าจ้างสุดงาม

– ปีกซ้าย : เมมฟิส เดอปาย (โอลิมปิก ลียง)

        เจ้าตัวผิดหวังอย่างมากที่อดย้ายไป บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่มันก็ยังคงมีโอกาสดีอยู่ เพราะปัจจุบันเหลือสัญญากับ ลียง อีกแค่ปีเดียว แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว ลียง คงอยากจะทำเงินเข้าสโมสรมากกว่าเสียไปแบบฟรีๆ ด้วยการชิงขายเจ้าตัวให้ บาร์ซ่า ในช่วงตลาดนักเตะรอบสองเดือนมกราคมนี้เลย เพราะใจของ เดอปาย ลอยไปที่ คัมป์ นู ตั้งนานแล้ว

– กองหน้าตัวเป้า : เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

        นี่คือดาวยิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก หลังกระทุ้งประตูให้ แมนฯ ซิตี้ ไปแล้วถึง 254 ลูก นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับทีมเมื่อ 9 ปีก่อน และถ้าหากไม่มีการต่อสัญญาเกิดขึ้นภายในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่า "เอล กุน" จะเป็นอีกหนึ่งแข้งฟรีเอเจนต์ที่เนื้อหอมมากๆ ในช่วงหน้าร้อนปีหน้า

    *ทีมฟรีเอเจนต์ชุดสอง* : แจ็ค บัตแลนด์ (สโต๊ค ซิตี้), วิลลี่ โบลี่ (วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส), จอนนี่ อีแวนส์ (เลสเตอร์ ซิตี้), ชโคดราน มุสตาฟี่ (อาร์เซน่อล), มิชาอิล อันโตนิโอ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด), ลูก้า โมดริช (เรอัล มาดริด), ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง), แดนนี่ โรส (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์), อังเคล ดิ มาเรีย (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง), อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค (นาโปลี), ดีเอโก้ คอสต้า (แอตเลติโก มาดริด)

 

ใช่เหรอ? “พ่อปาร์เตย์” เผยแนะลูกปฏิเสธ “2 ทีมดัง” ชี้ไม่ท้าทายเพราะได้เล่นชปล.

เจค็อบ ปาร์เตย์ คุณพ่อบังเกิดเกล้าของ โธมัส ปาร์เตย์ ออกมาเปิดเผยว่าลูกชายของเขาได้รับความสนใจจาก ยูเวนตุส และ เชลซี ก่อนจะลงเอยกับ อาร์เซน่อล

ปาร์เตย์ เป็นกองกลางคนสำคัญของ แอตเลติโก มาดริด โดยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนตกเป็นข่าวกับ อาร์เซน่อล มาอย่างยาวนาน

มิดฟิลด์ทีมชาติกานาวัย 27 ปีเพิ่งย้ายมาร่วมทัพอาร์เซน่อล เมื่อตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ โดยล่าสุด พ่อของเขาออกมาเปิดเผยว่า

"เรารู้ว่ามีความสนใจจาก ยูเวนตุส และ เชลซี ผมสังเกตว่าลูกชายอยากเล่นให้ทีมระดับยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ผมก็แนะนำเขาไปว่าทำไมไม่ลองไปทีมที่ไม่ได้เล่น แล้วช่วยให้พวกเขาได้ไปเล่นล่ะ?"

คล็อปป์เหน็บคาร์ร่าคิดแบบนี้ถึงไม่มีโอกาสทำงานคุมทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล เหน็บแนม เจมี่ คาร์ราเกอร์ ว่าแสดงความเห็นที่ผิดๆ จนทำให้เป็นเหตุผลที่ทำให้ คาร์ราเกอร์ ไม่มีโอกาสมาทำงานคุมทีม หลังจากที่ คาร์ราเกอร์ เหมือนกับจะเคยบอกว่า "หงส์แดง" ทำพลาดที่ไม่เสริมทัพในตำแหน่งกองหลังในตลาดรอบล่าสุด
    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหน็บ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตยอดกองหลังของทีมที่เหมือนกับจะเคยตำหนิตนว่าทำพลาดที่ไม่ยอมซื้อเซนเตอร์แบ็กอาชีพในตลาดการเสริมทัพรอบล่าสุด

    ก่อนที่ฤดูกาลนี้จะเริ่มขึ้นนั้น ลิเวอร์พูล ตัดสินใจปล่อย เดยัน ลอฟเรน ให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ก็ไม่ได้ซื้อใครมาแทนเลยจนทำให้เซนเตอร์แบ็กอาชีพที่มีประสบการณ์ระดับการเล่นให้ทีมชุดใหญ่แบบต่อเนื่องของพวกเขาเหลือเพียง 3 คน ได้แก่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และ โฌแอล มาติป ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ "หงส์แดง" ก็ได้รับข่าวร้ายเมื่อ ฟาน ไดค์ มีอาการเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกจนต้องหมดสิทธิ์ลงเล่นเป็นเวลานาน แถมถ้าเลวร้ายที่สุดยังอาจจะถึงขั้นต้องพักทั้งฤดูกาลเลย

    เรื่องดังกล่าวทำให้ไม่นานมานี้ คาร์ราเกอร์ กล่าวระหว่างการทำหน้าที่กูรูของ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดีว่าที่จริงแผงหลังของ ลิเวอร์พูล ก็เต็มไปด้วยความน่ากังขามาตั้งแต่ก่อนเปิดซีซั่นนี้แล้ว เพราะแม้ว่า ฟาน ไดค์ จะเป็นยอดกองหลัง แต่รายของ มาติป มักจะได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ ส่วน โกเมซ ก็ยังดูฟอร์มไม่คงเส้นคงวาเท่าที่ควร พร้อมกระตุ้นให้อดีตทีมของตนต้องเลื่อนมาปิดดีลกับกองหลังที่เป็นแข้งเป้าหมายของทีมตั้งแต่วันแรกของตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบ 2 ช่วงเดือนมกราคมนี้ให้ได้ ไม่ใช่รอไปเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า

    คล็อปป์ เผยว่า "ตอนแรกเราลงเล่นฤดูกาลนี้โดยที่มีเซนเตอร์แบ็กให้ใช้งานตั้ง 3 คน แถมยังมี ฟาบินโญ่ เป็นอะไหล่ในตำแหน่งนี้ รวมถึงมีดาวรุ่งบางคนที่สามารถลงเล่นให้ทีมได้ด้วย มันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่ทีมของคุณจะมีเซนเตอร์แบ็กระดับโลกอยู่ในทีมถึง 4 คน ถ้าเกิดมีใครอยากบอกว่าเราทำพลาด (ในการไม่ซื้อเซนเตอร์แบ็ก) อย่างเช่น เจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่พูดไปก่อนหน้านี้แล้วล่ะก็ ผมก็คิดว่านั่นคงเป็นหนึ่งในไม่กี่เหตุผลที่ทำให้คนแบบนั้นไม่ได้ทำงานนี้ (การคุมทีม)"

    หลังจาก คล็อปป์ พูดแบบนั้น คาร์ราเกอร์ ก็ชี้แจงทาง ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิตว่าตนไม่เคยตำหนิ คล็อปป์ เลยว่าทำพลาดที่ไม่ได้ซื้อกองหลังในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา "ในฤดูกาลนี้ผมยังไม่เคยพูดแม้แต่ครั้งเดียวว่า คล็อปป์ ทำพลาดที่ไม่ได้ซื้อเซนเตอร์แบ็กด้วยเหตุผลบางอย่างตามที่เขากล่าวอ้าง"

 

ผีว่าไง? “เบนนาเซอร์” ย้ายได้แบบไม่แพงซัมเมอร์หน้า

ทำเอา "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตาลุกวาวเลยทีเดียว เพราะล่าสุดมีข่าวแข้งเป้าหมายอย่าง อิสมาเอล เบนนาเซอร์ มิดฟิลด์ดาวเด่น เอซี มิลาน มีค่าฉีกสัญญาไม่แพงหลังจบซีซั่นนี้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สามารถเซ็นสัญญาคว้าตัว อิสมาเอล เบนนาเซอร์ กองกลางคนเก่งของ เอซี มิลาน สโมสรดังในศึก กัลโช่ เซเรีย อิตาลี ได้ในราคาเพียงแค่ 50 ล้านยูโร (ประมาณ 1,850 ล้านบาท) ช่วงซัมเมอร์ปีหน้า ตามรายงานจาก กัลโช่แมร์คาโต้ สื่อลูกหนังแดนมะกะโรนี เมื่อวันพุธที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เบนนาเซอร์ ถือเป็นนักเตะเนื้อหอมที่สุดคนหนึ่ง โดยนอกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต่างมีข่าวอยากได้ตัว สตาร์ทีมชาติแอลจีเรียวัย 22 ปี เช่นกัน ทว่าสุดท้ายไม่มีดีลใดๆ เกิดขึ้น ขณะที่ตัวนักเตะก็อยู่ค้าแข้งในถิ่น ซาน ซิโร่ ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ เบนนาเซอร์ เป็นผู้เล่นคนสำคัญของ มิลาน แต่เงื่อนไขค่าฉีกสัญญาของเจ้าตัว 50 ล้านยูโร จะเริ่มทำงานในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า ซึ่งนั่นหมายความว่า สโมสรใดก็ตามที่สามารถจ่ายให้ได้ตามจำนวนดังกล่าว ก็สามารถกระชากตัว อดีตแข้ง เอ็มโปลี ไปร่วมก๊วนได้ทันที

ทั้งนี้ เบนนาเซอร์ ซึ่งเคยเป็นนักเตะเยาวชนของ อาร์เซน่อล ช่วงระหว่างปี 2015-2017 ลงเล่นให้ "ปีศาจแดง-ดำ" ไปแล้วทั้งสิ้น 42 นัด ทำได้ 1 ประตู นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เอ็มโปลี เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2019

งูใหญ่ระส่ำ! อินเตอร์ยันอเล็กซิสเจ็บกล้ามเนื้อจากเกมเจ๊ากลัดบัค

อินเตอร์ มิลาน ได้รับข่าวร้ายเพิ่มเติมเมื่อ อเล็กซิส ซานเชซ มีอาการบาดเจ็บจากเกมที่ "งูใหญ่" เปิดรังเสมอ โบรุสเซีย มึนเช่น กลัดบัค 2-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี แต่ไม่ได้มีการระบุว่าต้องพักนานเท่าไหร่

อินเตอร์ มิลาน ประกาศยืนยันว่า อเล็กซิส ซานเชซ กองหน้าทีมชาติชิลี มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาระหว่างเกมที่ "งูใหญ่" เปิดรังเสมอ โบรุสเซีย มึนเช่น กลัดบัค 2-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี เมื่อคืนวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา

เกมดังกล่าวดาวเตะวัย 31 ปี ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริง แต่มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว และโดนเปลี่ยนตัวออกไปในช่วงพักครึ่งแล้วเป็น เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่ถูกส่งลงเล่นแทน

กระทั่งล่าสุดมีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากสโมสรแล้วว่า อเล็กซิส มีอาการเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ โดยระบุว่า "อเล็กซิส ต้องถูกเปลี่ยนตัวในช่วงพักครึ่งคืนนี้เนื่องจากเขามีปัญหาบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านขวา"

ทั้งนี้ อินเตอร์ กำลังประสบปัญหาขาดแคลนนักเตะตัวหลักหลายรายที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง อัชราฟ ฮาคิมี่, รัดย่า นาอิงโกลัน, อเลสซานโดร บาสโตนี่, มิลาน สคริเนียร์, แอชลี่ย์ ยัง, โรแบร์โต้ กายาร์ดินี่ และ โลนุต ราดู

สำหรับ อเล็กซิส เพิ่งจะย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด มาอยู่กับ "งูใหญ่" ด้วยสัญญาถาวรเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากทำผลงานได้น่าประทับใจระหว่างยืมตัวในซีซั่น 2019/20 และทำผลงานได้ดีพอตัวด้วยการทำไป 4 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในลีก 22 นัด