โอบาเมย็องไร้สกอร์ 5 เกมติดครั้งแรกในรอบ 6 ปี

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ไร้ชื่อบนสกอร์บอร์ด 5 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังจากที่ อาร์เซน่อล เปิดบ้านพ่ายต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
  
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้ากัปตันทีม อาร์เซน่อล ต้องเจอสถิติเลวร้ายที่ไม่น่าจดจำ เมื่อเจ้าตัวไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตูติดต่อกัน 5 นัดเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

โอบาเมย็อง คือผู้เล่นคนสำคัญของ ‘เดอะ กันเนอร์ส’ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเป็นคีย์แมนที่พา อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ โดยตลอดฤดูกาล 2019/20 กองหน้าทีมชาติกาบอง ซัดไป 29 ประตู จากทุกรายการ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในซีซั่นนี้กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะหลังจากที่ โอบาเมย็อง ทำประตูได้ในเกมเปิดฤดูกาลที่เอาชนะ ฟูแล่ม 3-0 และจรดปากกาต่อสัญญากับ ‘ไอ้ปืนใหญ่" ออกไป นับตั้งแต่นั้นเจ้าตัวกลับทำประตูไม่ได้อีกเลย ซึ่งนับเป็นจำนวน 5 นัดติดต่อกันเข้าให้แล้ว โดยสถิติไร้สกอร์ 5 เกมติดครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 สมัยที่เขายังค้าแข้งกับ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์

 

จุดโทษชัดๆ!เอวร่าชี้แม็กไกวร์ทำอย่างกับเล่นมวยปล้ำ

ปาทริซ เอวร่า เผยความรู้สึกเมื่อเห็นจังหวะที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เหนี่ยวรั้งไม่ให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เข้าเล่นบอล โดยระบุว่าทำให้นึกถึงการเล่นมวยปล้ำ ขณะเดียวกันอดีตแข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่าสมควรเป็นลูกจุดโทษแน่นอน
     เกมที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี ลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0 ซึ่งระหว่างเกมมีจังหวะปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีม’ปีศาจแดง’ ไปล็อกคอ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า แนวรับของ เชลซี ในจังหวะที่ ‘สิงห์บลูส์’ ได้ลูกฟรีคิกที่เปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษ

    อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าว่าจังหวะนี้เป็นการทำฟาวล์ อีกทั้ง วีเออาร์ ก็ไม่ได้เรียกตรวจสอบความชัดเจนนี้ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายต่างสงสัย เพราะถ้าว่ากันตามตรง ดูเหมือนว่าเป็นลูกฟาวล์ที่ชัดเจน และ เชลซี สมควรได้ลูกจุดโทษ ถึงขนาดที่ ปาทริซ เอวร่า อดีตแข้งคนดังของ แมนยู เอง ยังเอ่ยปากในรายการของ สกาย สปอร์ต ว่าไม่ว่ายังไงเสีย จังหวะนี้ก็ต้องเป็นการฟาวล์

    "ผมเคยดูมวยปล้ำ และเขา (แม็กไกวร์) ทำให้ผมนึกถึง ฮัลค์ โฮแกน (ยอดนักมวยปล้ำชื่อดังของ WWE) มันชัดเจนว่าเป็นลูกจุดโทษ ผมคิดว่าเราน่าจะได้พูดถึงเรื่องนี้กันทั้งวันเลยล่ะ" อดีตแบ็กซ้ายปีศาจแดง กล่าว

    นอกจากนี้ จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ อดีตกองหน้าของ เชลซี และทำหน้าที่ในห้องส่งของ สกาย สปอร์ต เช่นเดียวกับ เอวร่า ก็ระบุว่า แม็กไกวร์ พยายามรั้ง อัซปิลิกวยต้า ไว้เพื่อไม่ให้เล่นบอลแบบชัดเจน

    "100 % เลยว่าต้องเป็นลูกจุดโทษ แม็กไกวร์ เขาทำอะไรของเขาน่ะ" อดีตผู้เล่นทีมชาติฮอลแลนด์ กล่าวในช่วงพักครึ่งแรก

    "หากคุณได้มองจากมุมต่างๆ แล้วล่ะก็ เขา (แม็กไกวร์) เหนี่ยวรั้งคอ อัซปิลิกวยต้า และจงใจหยุดไม่ให้เขา (อัซปิลิกวยต้า) เทคตัวกระโดด แม็กไกวร์ ใส่น้ำหนักตัวทิ้งลงไปตรงไหล่ของ อัซปิลิกวยต้า"

ลิเวอร์พูลเฮ “ติอาโก้” คืนทัพ! “ซาลาห์-มาเน่” นำตะบันเชฟยูส่งบรูว์สเตอร์ลุ้นยิงทีมเก่า

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะได้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่หายเจ็บกลับมาเคลื่อนทัพแดนกลาง ขณะที่แผงแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ พร้อมประสานคมพักตาข่ายเกมรับ "ดาบคู่" เชฟฯ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 24 ต.ค. ศกนี้  ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 (เวลา : 02.00 น.)
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563
ลิเวอร์พูล   –   เชฟฯ ยูไนเต็ด
ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 (เวลา : 02.00 น.)

สนาม : แอนฟิลด์

ลิเวอร์พูล :

    ลิเวอร์พูลบุกไปเสมอกับเอฟเวอร์ตัน 2-2 ในเกมลีกนัดล่าสุดก่อนที่จะเฉือนชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี นัดแรก

    ความพร้อมของหงส์แดงในเกมนี้จะไม่มี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่ารบกวนจนต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งจะทำให้กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ต้องหยุดสถิติออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมลีกเอาไว้ 94 นัดติดต่อกัน นอกจากนี้ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังคงต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ โดยเป็นที่คาดกันว่า จอมหนึบทีมชาติบราซิล จะกลับมาเฝ้าเสาได้ก่อนสิ้นเดือนนี้

    แต่มีข่าวดีคือ ติอาโก้ อัลกันตาร่า พร้อมที่จะกลับมาช่วยทีมในเกมนี้หลังจากที่สลัดอาการบาดเจ็บจากการปะทะกับ ริชาร์ลิซอน จน ดาวยิงบราซิเลียน โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมลีกนัดก่อน

    ในแผงหลัง ฟาบินโญ่ คงจะได้รับโอกาสลงสนามในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กต่อไป โดยจะจับคู่กับ โจ โกเมซ เช่นเดิมหลัง อดีตแข้ง อาแอส โมนาโก โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในเกมกับอาแจ็กซ์ถึงแม้ว่า โฌแอล มาติป พร้อมที่จะกลับมาช่วยทีมแล้วก็ตาม

    ส่วนในแดนหน้า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน คงจะยึดผู้เล่นชุดเดิมต่อไป ซึ่งก็คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ทั้งที่ ฟีร์มีโน่ ถูกตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับสภาพความฟิตของเขา รวมทั้ง ดีโอโก้ โชต้า ที่ได้ลงมาเป็นตัวสำรองจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมกลางสัปดาห์ก็ตาม

    ด้าน นาบี เกอิต้า และ คอสตาส ซิมิกาส ก็สลัดอาการบาดเจ็บเตรียมกลับเข้ามาสู่ทีมอีกครั้ง ขณะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยังคงต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน

เชฟฯ ยูไนเต็ด :

    เชฟฯ ยูไนต็ด ยังคงหวานหาชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลนี้ไม่เจอหลังไม่ชนะใครมา 6 เกมแล้วรวมทุกรายการ เกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านเสมอกับฟูแล่ม 1-1

    ทีมเยือนกำลังประสบปัญหาผู้เล่นโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แจ็ค โอคอนเนลล์ ที่โดนโรคเดี้ยงบริเวณหัวเข่าเล่นงานจนต้องเข้ารับการผ่าตัดและคงจะต้องพักรักษาตัวในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ รวมทั้ง จอห์น เฟล็ค, ลีส์ มูสเซ และ แม็กซ์ ลอว์ ที่ถูกส่งประเดิมสนามในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่อยู่ในสนามได้เพียง 19 นาทีเท่านั้นหลังจากที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บและอาจจะไม่สามารถลงสนามได้ในเกมนี้

    ทำให้ คริส ไวล์เดอร์ ผู้จัดการทีม คงจะส่ง อีธาน อัมปาดู ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยที่ เอ็นดา สตีเว่นส์ จะขยับจากตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายกลับไปยืนตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย

    ขณะที่ในแนวรุก รีอาน บรูว์สเตอร์ จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงเผชิญหน้ากับต้นสังกัดเก่า ซึ่งไวล์เดอร์ก็หวังว่าบรูว์สเตอร์จะงัดฟอร์มเก่งออกมาเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจ้านายเก่า รู้สึกว่า เขาคิดผิดที่ปล่อยตัวแข้งรายนี้ออกจากทีม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ติอาโก้ อัลกันตาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
    ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

    เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : อารอน แรมส์เดล – คริส บาแชม, อีธาน อัมปาดู, จอห์น เอแกน – จอร์จ บัลด็อค, จอห์น ลุนด์สแตรม, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, ซานเดอร์ เบิร์ก, เอ็นดา สตีเว่นส์ – โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่, รีอาน บรูว์สเตอร์
    ผู้จัดการทีม : คริส ไวล์เดอร์

    ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

คนนี้แฟนหงส์ถูกใจไหม? สื่อยันลิเวอร์พูลเดินหน้าซื้อกองหลังคนใหม่แล้ว

สื่ออังกฤษ ตีข่าว ลิเวอร์พูล เปิดฉากคุยกับทีมเมืองเบียร์แล้วเพื่อขอซื้อกองหลังมาเสริมทัพช่วงปีใหม่ หลัง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ต้องพักยาว
   
ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินหน้าเจรจากับ ชาลเก้ 04 สโมสรในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน เพื่อขอซื้อตัว โอซาน คาบัค ปราการหลังดาวรุ่งทีมชาติตุรกี มาเข้าถิ่น แอนฟิลด์ ช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้แล้ว ตามรายงานจาก ซันเดย์ มิร์เรอร์ สื่อเมืองผู้ดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

"หงส์แดง" กำลังมองหาเซนเตอร์แบ็กคนใหม่เข้ามาเสริมทัพ เพราะ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังคนเก่งต้องพักยาวจากการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า หลังโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวาร เอฟเวอร์ตัน เข้าสกัดหนักใส่ในเกมลีกที่เสมอกัน 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา

ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา "หงส์แดง" เคยมีข่าวกับ คาบัค วัย 20 ปี มาแล้ว และเวลานั้น ชาลเก้ ตั้งค่าตัวไว้ที่ 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) แต่หลังจากที่ "ราชันสีน้ำเงิน" ออกสตาร์ตฤดูกาลย่ำแย่ทำให้พร้อมลดราคานักเตะลงมาเหลืออยู่ที่ราว 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,200 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล พร้อมจะจ่ายค่าตัวเบื้องต้นให้ ชาลเก้ จำนวน 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 800 ล้านบาท) พร้อมกับโบนัสอีกส่วนหนึ่งตามเงื่อนไขที่ทำได้ ส่งผลให้ทั้งสองสโมสรยังต้องคุยกันอีกเพื่อให้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน

ทั้งนี้ คาบัค มีสไตล์การเล่นที่ดุดัน แข็งแกร่ง กล้าลุย รวดเร็ว และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี รวมทั้งมี ฟาน ไดค์ เป็นไอดอลของตัวเองด้วย

แมนซิตี้มี”เดอ บรอยน์”บุกมาร์กเซยของ”โตแว็ง”ลุ้นยึดหัวฝูงชปล.

"เรือใบสีฟ้า" แมนซิตี้ จำเป็นต้องเค้นฟอร์มเก่งให้ได้ หลังนัดลีกล่าสุดพลาดเสมอ หากชนะเกมนี้จะยึดหัวฝูงกลุ่มต่อไป งานนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ขับเคลื่อนเกมรุกบุกถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย ที่มี ฟลอริย็อง โตแว็ง เป็นทีเด็ดแมตช์นี้ ในการแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี คืนวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563
ปรีวิวยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี
คืนวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563
โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) – แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)
เวลา : 03.00 น. ถ่ายทอดสด : บีอินส์ สปอร์ต 1
สนาม : ออเร้นจ์ เวโลโดรม

    โอแอ็ม สตาร์ตรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. ด้วยการออกไปแพ้โอลิมเปียกอส 0-1 และบุกชนะลอริยองต์ 1-0 ในเกมลีก เอิง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

    กุนซือ อันเดร วิลลาช-โบอาช ไร้ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน หลังจากได้ ดิมิทรี ปาเยต มิดฟิลด์เชิงรุกพ้นโทษแบน 2 นัด ในลีก เอิง กลับมาพร้อมช่วยทีม ส่วนบูบาการ์ กามาร่า แข้งทีมชาติฝรั่งเศส ชุดยู-21 หายเจ็บที่หน้าแข้ง กลับคืนสนามแล้ว

    เกมนี้ สตีฟ ม็องด็องด้า นายทวารกัปตันทีมลงเฝ้าเสา แนวรับประกอบด้วย ฮิโรกิ ซากาอิ, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, เลโอนาร์โด้ บาเลร์ดี้ และ จอร์ดาน อมาวี่

    แดนกลาง วาล็องแต็ง รงชิเย่ร์ ขับเคลื่อนเกมร่วมกับ บูบาการ์ กามาร่า และ มอร์กกาน ซ็องซง 

    แผงรุกจัดสามประสาน ฟลอริย็อง โตแว็ง, ดาริโอ เบเนเด็ตโต้ และ ดิมิทรี ปาเยต ลงประสานงานกัน
       
    แมนฯ ซิตี้ เริ่มต้นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการพิชิตปอร์โต้ 3-1 และเสมอเวสต์แฮม 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุด

    กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขาดตัวเจ็บอย่าง แฟร์นันดินโญ่, เบนฌาแม็ง เมนดี้ และ กาเบรียล เชซุส 

    ส่วน เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเพิ่มต้องรอทดสอบความฟิต ซึ่งโอกาสชวดสูงมาก เช่นเดียวกับ เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ และ นาธาน อาเก้ สองแนวรับที่ไม่สมบูรณ์

    ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ฟิตกลับมาเป็นสำรองได้ในเกมล่าสุด และน่าจะกลับมาออกสตาร์ตตัวจริง โดย ราฮีม สเตอร์ลิง จะยืนเป็นหน้าเป้า พร้อมเปิดโอกาสให้ เฟร์ราน ตอร์เรส และ ฟิล โฟเด้น สลับมาเป็น 11 คนแรก

    แดนกลาง โรดรี้ เอร์นานเดซ กับ อิลคาย กุนโดกัน คอยขับเคลื่อนเกม

    สำหรับแนวรับยึดชุดเดิม ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เอริก การ์เซีย และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เช่นเดียวกับนายประตู เอแดร์ซอน โมราเอส
    

11 นักเตะตามคาด   

    โอลิมปิก มาร์กเซย (4-3-3) : สตีฟ ม็องด็องด้า – ฮิโรกิ ซากาอิ, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, เลโอนาร์โด้ บาเลร์ดี้, จอร์ดาน อมาวี่ – วาล็องแต็ง รงชิเย่ร์, บูบาการ์ กามาร่า, มอร์กกาน ซ็องซง – ฟลอริย็อง โตแว็ง, ดาริโอ เบเนเด็ตโต้, ดิมิทรี ปาเยต

    เทรนเนอร์ : อันเดร วิลลาช-โบอาช

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เอริก การ์เซีย, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์ – เฟร์ราน ตอร์เรส, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิล โฟเด้น

    เทรนเนอร์ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 

    ผู้ตัดสิน : โทเบียส สตีเลอร์ (เยอรมัน)    

เผยแมนยูวืดจอมแกร่งไลป์ซิกตอนค่าตัวสุดถูก ตอนนี้จะเอาต้องจ่ายทะลุ2.2พันล้าน!

สื่อเผย ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส เกือบได้ย้ายมาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่สุดท้ายต้องล่มเพราะ "ปีศาจแดง" เหนียวเงินแค่ 2 แสนปอนด์เท่านั้น
   
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พลาดได้ตัว ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งคนเก่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก มาเข้าถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างน่าเสียดายเมื่อปี 2015 ตามรายงานจาก เดอะ มิร์เรอร์ สื่อเมืองผู้ดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ในเวลานั้น อูปาเมกาโน่ ที่อายุ 16 ปี เล่นอยู่กับ วาล็องเซียนส์ สโมสรในฝรั่งเศส และ "ปีศาจแดง" ก็เกือบจะได้ตัว หลังนักเตะ, คุณแม่ และเอเยนต์ เดินทางมาแดนผู้ดีเพื่อตกลงเรื่องย้ายทีมแล้ว

อย่างไรก็ตาม อูปาเมกาโน่ ต้องเดินทางกลับฝรั่งเศส พร้อมกับความผิดหวัง หลังจากทั้งสองสโมสรคุยกันเรื่องค่าตัวไม่ลงตัว โดย วาล็องเซียนส์ ต้องการได้ 700,000 ปอนด์ (ประมาณ 28 ล้านบาท) ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมให้แค่ไม่เกิน 500,000 ปอนด์ (ประมาณ 20 ล้านบาท) เท่านั้น

หลังจากนั้น อูปาเมกาโน่ ก็พัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นกองหลังฝีเท้าเยี่ยม และได้มีโอกาสไปเล่นให้ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก เมื่อปี 2016 ก่อนมาอยู่กับ ไลป์ซิก เมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัว 9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 360 ล้านบาท) โดยเวลานี้มีหลายทีมจับตามองทั้ง เรอัล มาดริด, อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด

ขณะที่ค่าตัวของกองหลังวัย 21 ปีในเวลานี้คาดว่าอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 55 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,200 ล้านบาท) หลังทำผลงานเยี่ยม และลงเล่นให้ ไลป์ซิก ไปแล้ว 118 นัด รวมทั้งติดทีมชาติฝรั่งเศส ไปแล้ว 3 เกม

แนวรับแกร่ง,คาวานี่เกือบยิง!ตัดเกรดแข้งแมนยูเกมเจ๊าจืดเชลซี

เกมบิ๊กแมตช์ในศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี เมื่อคืนวันเสาร์ จบลงด้วยการเสมอกันไป 0-0 โดยที่ "ปีศาจแดง" มีโอกาสได้ลุ้นมากกว่า แต่จบกันไม่คม แถมต้องซูฮกความเหนียวหนึบของนายประตูทีมคู่แข่งด้วย ส่วนแนวรับถือว่าต้องชื่นชม เพราะทำให้ "สิงห์บลูส์" แทบไม่มีโอกาสได้ลุ้นทำประตูเลย และนี่คือผลสอบของนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ละคนในแมตช์นี้
11 ผู้เล่นตัวจริง

 – ดาบิด เด เคอา : 6
  เจองานไม่หนัก ตลอดทั้งเกมได้เซฟเบาๆ หนเดียว 


 

 – อารอน วาน-บิสซาก้า : 7
  เกมรุกอาจยังไม่มีทีเด็ด แต่เกมรับยังคงไว้ใจได้ ซึ่งถือเป็นการสานต่อผลงานอันยอดเยี่ยมจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์

 – วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ : 7.5
  เป็นเกมที่เล่นได้แข็งแกร่ง รับมือได้ทุกรูปแบบ จัดการกับ ติโม แวร์เนอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม

 – แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (C) : 7
  คุมแนวรับได้ดี เคลียร์บอลทิ้งได้ตลอด และชนะการดวลลูกกลางอากาศได้แบบ 100% (5/5)

 – ลุค ชอว์ : 6
  อาจจะไร้ข้อผิดพลาด แต่ดูเหมือนเล่นแบบกองหลังสามตัวได้ดีกว่าแบบสี่ตัว แถมมีปัญหาในการรับมือกับ รีส เจมส์ บางจังหวะ


 

 – สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ : 6.5
  ช่วยเกมรับได้ดี ทำให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เล่นด้วยความยากลำบาก แต่เสียเวลากับบอลมากไปหน่อย

 – เฟร็ด : 7
  สู้กับแดนกลาง เชลซี ได้ดี โดยเฉพาะการตัดบอล ซึ่งเจ้าตัวทำได้ 3 ครั้ง ถือว่ามากสุดในทีม "ปีศาจแดง" เท่ากับ แม็คโทมิเนย์ 


 

 – ฆวน มาต้า : 6.5
  เล่นได้โอเคเลย สร้างโอกาสสวยๆ หลายครั้ง แถมมียิงได้ลุ้น 1 หนด้วย แต่โดยรวมได้บอลน้อยไปหน่อย ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงครึ่งหลัง

 – บรูโน่ แฟร์นันด์ส : 7
  อาจจะดูเงียบๆ แต่สร้างโอกาสให้เพื่อนลุ้นทำประตูถึง 4 หน มากสุดเหนือทุกคนในสนามเกมนี้


 

 – แดเนี่ยล เจมส์ : 5
  เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าผิดหวังสำหรับปีกชาวเวลส์ ไม่แปลกใจที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง

 – มาร์คัส แรชฟอร์ด : 7
  ช่วง 10 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงเน้นๆ แต่ติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ หลังนั้นก็เล่นได้อันตรายเป็นระยะ แต่การตัดสินใจจังหวะสุดท้ายยังไม่ดี

 

สำรองที่ได้ลงเล่น

 – ปอล ป็อกบา (แทน มาต้า น. 58) : 6.5
  ช่วยยกระดับการทำเกมในแดนกลางได้ดี แต่ช่วงท้ายเกมน่าจะทำได้ดีกว่านี้กับการยิงบริเวณกรอบเขตโทษ

 

 – เอดินสัน คาวานี่ (แทน เจมส์ น. 58) : 6
  ใช้เวลาอยู่ในสนามเพียงไม่กี่วินาที ก็ได้ลุ้นทำประตูแบบเสียวๆ ทันที และช่วงท้ายเกมมีได้ลุ้นอีกครั้งด้วย แม้ไร้สกอร์ แต่ก็โชว์ให้เห็นถึงเซนส์บอลของดาวยิงระดับเวิลด์คลาส

 – เมสัน กรีนวู้ด (แทน แม็คโทมิเนย์ น. 83) : –
  ไม่สามารถให้คะแนนได้

ลงตัว!แกรี่เผยโซลชาอาจเลือกถูก3หนุ่ม3มุมแผงมิดฟิลด์

แกรี่ เนวิลล์ ระบุ การจับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด เป็นตัวจริงร่วมกันอาจจะเป็นการเลือกที่ถูกต้องของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะมันทำให้เกมรับเหนียวแน่นขึ้นจนเสียเพียง 2 ลูกใน 3 นัดหลังสุด ต่างกับ 5 เกมแรกที่เสียไปถึง 11 ประตู พร้อมชี้ว่าแท็คติกแบบนี้ก็เคยส่งผลดีกับ โซลชา มาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน
    แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความเห็นว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" อาจจะทำถูกแล้วที่จัดให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด ลงเล่นเป็นตัวจริงร่วมกัน เพราะมันทำให้เกมรับของทีมดีขึ้น

    โซลชา โดนตั้งคำถามถึงเรื่องการจัดทีมเยอะพอตัวในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่ส่งทั้ง ปอล ป็อกบา กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เป็นตัวจริง และเลือกใช้งาน บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ รวมถึง เฟร็ด เป็น 3 ประสานในแดนกลางตั้งแต่ต้นเกมในช่วง 3 นัดหลังสุด แต่มันก็ทำให้พวกเขาชนะ 2 เกมกับเสมอ 1 นัด รวมถึงเสียเพียง 2 ประตูเท่านั้น ต่างกับ 5 เกมก่อนหน้านั้นที่เสียไปถึง 11 ประตูและแพ้ 2 เกมแบบฟ้ากับเหว

    เนวิลล์ เผยว่า "ถ้าคุณลองดูเกมนัดเปิดฤดูกาลของ แมนฯ ยูไนเต็ด (แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-3) แล้วล่ะก็ คุณก็จะเห็นว่าพวกเขาเคยให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ยืนคู่กับ ป็อกบา ในตำแหน่งกลางสนาม ประเด็นคือ ป็อกบา เป็นนักเตะที่สไตล์การเล่นต่างจากทั้ง เฟร็ด, แม็คโทมิเนย์ และ เนมานย่า มาติช อย่างสิ้นเชิง ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาโดนเล่นงานได้ง่ายตามไปด้วย"

    "ป็อกบา กับ แฟร์นันด์ส ต่างก็เป็นพวกที่เน้นเกมรุกเป็นหลัก ทั้งคู่ต่างก็คิดถึงการสร้างโอกาสทำประตูรวมถึงการยิงประตูเองมากกว่าการเล่นเกมรับ มันทำให้แนวตรงหน้าแผงหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือกองกลางที่ช่วยเกมรับแค่คนเดียว ซึ่งมันก็ทำให้วันนั้น พาเลซ ฉีก แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นชิ้นๆ แนวรุกของคู่แข่งไปถึงแผงแบ็กโฟร์ง่ายเกินกว่าที่ควรจะเป็นมากๆ แถมยังเกิดชอตแบบนั้นเยอะเกินไปด้วย ซึ่งเดิมที 2 เซนเตอร์แบ็กของพวกเขาก็ไม่ใช่พวกที่เก่งในเรื่องการดวลตัวต่อตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ไม่มีความเร็วตั้งแต่แรก"

    "หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีเกมที่ปล่อยให้คู่แข่ง (หมายถึงเกมลีกที่ชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-2) ได้ยิงหลายหน ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะเจอวันที่เลวร้ายในเกมกับ ท็อตแน่ม  ที่พวกเขาแพ้แบบขาดลอย 1-6"

    "คำถามคืออะไรที่มันแตกต่างออกไปหลังจากพ้นโปรแกรมเกมทีมชาติไปแล้ว ? นั่นก็คือ โอเล่ กลับไปจัดทีมตามแบบที่ช่วยให้เขาทำผลงานได้ดีเมื่อฤดูกาลก่อน ซึ่งได้แก่การทำให้เกิดกรอบสี่เหลี่ยมในด้านเกมรับอันประกอบไปด้วย วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แม็กไกวร์, เฟร็ด, แม็คโทมิเนย์ ทั้งหมดต่างก็เป็นนักเตะประเภทที่เน้นเกมรับเป็นหลัก พวกเขาต่างก็เข้าหาบอลได้เร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 กองกลาง (หมายถึง เฟร็ด กับ แม็คโทมิเนย์) ที่ยืนอยู่หน้าคู่เซนเตอร์แบ็ก"

    "ดังนั้นทุกครั้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนคู่แข่งบุกใส่ และบอลไปถึงแผงกลางของ เชลซี แล้วน่ะ พวกเขาเหล่านั้นต่างก็พุ่งเข้าใส่นักเตะของ เชลซี อย่างรวดเร็ว การใช้แท็กติกนี้ยังช่วยทำให้ อารอน วาน-บิสซาก้า กับ ลุค ชอว์ ฟูลแบ็กทั้ง 2 ข้างของ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นแบบดุดันได้ด้วย โดยที่กองกลางทั้ง 2 คนก็เล่นแบบดุดันในพื้นที่ของพวกเขา พวกเขาทำงานร่วมกันได้ดี และมันก็ทำให้ ลินเดอเลิฟ กับ แม็กไกวร์ ซึ่งเป็น 2 กองหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนเล่นงานน้อยลงเช่นกัน"

    "สำหรับผมแล้วมันแทบจะเหมือนกับว่า โอเล่ คิดว่า -ฉันต้องกลับไปสู่พื้นฐานที่ดีซะแล้ว ฉันจะเสียประตูมากมายก่ายกองต่อไปไม่ได้- แน่นอนว่าเขามีปัญหากับเรื่องการจัดทีมในกรณีของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กับ ป็อกบา (ที่ไม่ได้เป็นตัวจริง) แต่สัปดาห์นี้เขากลับไปสู่พื้นฐานของตัวเอง และมันทำให้คู่แข่งเล่นงานพวกเขาได้ยาก พร้อมกับส่งผลให้ทีมเสียประตูน้อยลง และโดนคู่แข่งยิงใส่น้อยกว่าเดิมตามไปด้วย"

เอวร่าขอแจงหลังบอกแมนยูไม่ต้องมีฟานเดอเบ็ค

ปาทริซ เอวร่า อดีตแบ็กซ้ายคนดังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชี้แจง ที่บอกว่า ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ไม่ใช่คนที่ "ปีศาจแดง" จำเป็นต้องมีอยู่ในทีมนั้น ตนหมายถึงเฉพาะในช่วงนี้เท่านั้น แต่ก็บอกว่าแข้งชาวดัตช์ยังสู้ ปอล ป็อกบา และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไม่ได้เหมือนกัน
    ปาทริซ เอวร่า อดีตยอดแบ็กซ้ายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้แจงว่าที่ก่อนหน้านี้บอกว่า "ปีศาจแดง" ไม่จำเป็นต้องมีนักเตะแบบ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ตนหมายความเพียงว่า ฟาน เดอ เบ็ค ไม่จำเป็นกับทีมในตอนนี้เท่านั้น

    ชีวิตของ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนที่คนพูดถึงกันในช่วงที่ผ่านมา เพราะทั้งที่เขาย้ายมาอยู่กับทีมด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกแม้แต่นัดเดียว และถ้านับเป็นนาทีเขาก็ลงเล่นในลีกไปเพียง 60 นาทีเท่านั้น จนหลายคนมองว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจพลาดที่ไม่ใช้งานเขามากเท่าที่ควร

    ทั้งนี้ ในเกมล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ เชลซี 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น ฟาน เดอ เบ็ค ถึงขั้นไม่ถูกเปลี่ยนลงสนามด้วยซ้ำ ซึ่ง เอวร่า กล่าวถึงเรื่องนี้ระหว่างทำหน้าที่กูรูของ สกายสปอร์ตส์ ว่าไม่เข้าใจเลยว่าอดีตทีมของตัวเองจะซื้อ ฟาน เดอ เบ็ค ทำไม พร้อมบอกว่าตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่จำเป็นต้องพึ่งพานักเตะแบบเขาเลย และมันก็ทำให้ "เร้ด อาร์มี่" บางส่วนไม่พอใจกับคำพูดของเขา

    เอวร่า เผยผ่านคลิปที่โพสต์ใน อินสตาแกรม เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิตว่า "ถึงแฟนบอล ยูไนเต็ด ที่รักของผม ไม่นานมานี้ผมได้แสดงความเห็นผ่านทาง สกาย ว่าที่จริงเราไม่จำเป็นต้องมีนักเตะแบบ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เลย เอาล่ะ ผมจะยกตัวอย่างสักหน่อยแล้วกันว่าทำไมผมบอกว่าเรายังไม่จำเป็นต้องมีคนแบบเขา ฟังนะ เรามี เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เนมานย่า มาติช อยู่ในทีม ซึ่งไม่ว่าพวกคุณจะรักพวกเขาหรือเกลียดพวกเขาน่ะ คุณก็ต้องยอมรับว่าเมื่อถึงเวลาที่เราต้องเล่นเกมใหญ่แล้วนั้นพวกเขามักจะทำผลงานได้ดีอยู่เสมอ นั่นคือมุมมองของผม"

    "ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เก่งกว่า ปอล ป็อกบา รึเปล่า ? ไม่เลย เขาเก่งกว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ หรือเปล่า ? ก็ไม่อีกนั่นแหละ แน่นอนว่าผมอยากเห็นเขาเล่นให้กับ ยูไนเต็ด ด้วยฟอร์มเหมือนตอนที่เขาเล่นกับ อาแจ็กซ์ แต่เรามีปัญหาอยู่ 1 อย่าง นั่นคือฤดูกาลนี้เขาได้เป็นตัวจริงไปแล้วกี่นัดกัน ? นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องพึ่งคนอย่างเขา ผมพูดแบบนั้นเพราะเขาไม่ใช่คนที่จำเป็นกับทีมแบบปัจจุบันทันด่วนอย่างเช่นในตอนนี้"

    "ผมไม่พอใจกับเรื่องนั้น และผมก็เห็นใจเด็กคนนั้นด้วย เพราะเมื่อคุณย้ายทีมด้วยค่าตัวระดับ 40 ล้านปอนด์ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณย่อมคาดหวังว่าจะได้เล่นมากกว่านี้ แต่ผมเชื่อมั่นในตัว โอเล่ คนเป็นนักเตะก็ต้องเชื่อมั่นในตัว โอเล่ เขาต้องใจเย็นเข้าไว้ แล้วเดี๋ยวเขาก็จะได้รับโอกาสของเขาเองนั่นแหละ ดังนั้นอย่าดัดแปลงคำพูดของผมไปในทางที่ผิดๆ เพราะผมบอกไปเพียงว่า ดอนนี่ ไม่ใช่คนที่ทีมจำเป็นต้องมีแบบปัจจุบันทันด่วน"

ไขข้อข้องใจทำไมลิเวอร์พูลเสียจุดโทษเกมกับเชฟฯยูไนเต็ด

กลายเป็นประเด็นร้อนระหว่าง วีเออาร์ กับ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง หลังเมื่อสัปดาห์ก่อน ‘หงส์แดง’ เป็นฝ่ายเสียประโยชน์ในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน และนัดล่าสุดกับลูกจุดโทษที่ ‘หงส์แดง’ เสียให้แก่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็ทำให้แฟนบอลหลายคนสงสัยว่าจังหวะที่ ฟาบินโญ่ เข้าสกัด โอลี่ แม็คเบิร์นนี่ย์ สมควรเป็นจุดโทษจริงๆ หรือ?
    จังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเกม โดยแรกเริ่ม ฟาบินโญ่ สกัดบอลไม่ดีไปติดตัว จอห์น ลุนด์สแตรม มิดฟิลด์ของ เชฟฯ ยูไนเต็ด แล้วบอลมาเข้าทางของ โอลี่ แม็คเบิร์นนี่ย์ ก่อนที่ดาวเตะแซมบ้าของ ลิเวอร์พูล เข้าสกัดบอลจังหวะสองจากทางด้านหลังตรงบริเวณเส้นกรอบเขตโทษ

    ซึ่งทันใดนั้น ไมค์ ดีน ผู้ทำหน้าที่ชี้ขาดในเกมนี้ เป่าเป็นลูกฟาวล์ของ ฟาบินโญ่ และให้เป็นฟรีคิกแก่ ทีมดาบคู่ อย่างไรก็ตาม วีเออาร์ ที่ควบคุมโดย อันเดร มาร์ริเนอร์ นำจังหวะนี้มาตรวจสอบใหม่อีกครั้ง และส่งสัญญาณบอก ดีน ว่าช็อตนี้เป็นจุดโทษของ เชฟฯ ยูไนเต็ด แล้วก็เป็น ซานเดอร์ เบิร์ก สังหารไม่พลาดพาทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะตามตีเสมอ 1-1 จาก โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในช่วงท้ายครึ่งแรก และมาได้ประตูชัยจากลูกโขกของ ดีโอโก้ โชต้า ในช่วงครึ่งหลัง

    อย่างไรก็ดี การทำหน้าที่ของ วีเออาร์ เกิดเป็นคำถามของแฟนบอลหลายคนที่มองว่า เทคโนโลยีตัวช่วยการตัดสินนี้เกิดข้อผิดพลาดหรือไม่ และเมื่อกางกฎกติกาออกมาแล้ว สามารถยืนยันได้ว่าจังหวะนี้สมควรแก่เป็นลูกจุดโทษของ เชฟฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากเป็นการฟาวล์บนเส้นกรอบเขตโทษ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกรอบเขตโทษ ฉะนั้นต่อให้ไม่ได้ทำฟาวล์ข้างในกรอบ แต่หากเกิดขึ้นตรงเส้นเขตโทษ ก็จะกลายเป็นลูกจุดโทษทันที

    แล้วทีนี้ ข้อสงสัยอีกหนึ่งอย่างคือมันสมควรเป็นลูกฟาวล์หรือไม่ เพราะจะเห็นว่า ฟาบินโญ่ ก็เข้าสกัดโดนลูกฟุตบอล ซึ่งในจุดนี้เอง วีเออาร์ ไม่ได้เช็กได้ว่าเป็นการฟาวล์หรือไม่ เพราะยืนยันตามที่กรรมการตัดสินแล้วว่าเป็นลูกฟาวล์ จึงทำให้ วีเออาร์ ทำหน้าที่เช็กเพียงว่าการฟาวล์นี้เกิดขึ้นในเขตโทษ หรือว่านอกเขตโทษเท่านั้น